เรามีอะไรกับแฟนเก่าเราเมื่อวันที่ 26 May จนถึง วันที่ 2 June มีหลายรอบมากค่ะ ทั้งใส่ถุงและไม่ใส่ แต่มีครั้งหนึ่งที่ต่อรอบแล้วเค้าไม่ได้ล้างก่อน แต่เรากินยาคุมฉุกเฉิน(แบบฮอร์โมนเม็ดเดียว)ไประหว่างสัปดาห์ 1 ครั้ง และอีกครั้งก็คือวันที่ 3 June หลังเลิกกัน จากนั้นเรามีคนคุยใหม่เร็วมากค่ะ แล้วเราเมาไม่ได้สติ เขาก็ถือโอกาสเอาเรา เราก็ปล่อยเลยตามเลยจนเอากับคนนี้เกือบทุกวัน (วันละรอบถึง 2 รอบ แต่ส่วนใหญ่คือเมาไม่ได้สติเลยค่ะ) แต่ไม่เคยป้องกันเลย เราไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าเขาแตกนอกทันไหม แต่เราถึงจุดสุดยอดบ่อยค่ะ (เราอ่านมาว่าถ้าผญ.ถึงจุดสุดยอดจะยิ่งเพิ่มเปอร์เซ็นการท้องได้) ตั้งแต่วันที่ 6-9 June เขาบอกเราว่าแตกนอกที่ห้องน้ำเราเลยไม่ได้กินยาคุม แต่วันที่ 10 June เค้าดันมาบอกใหม่ว่าเคยแตกนอกไม่รู้ตัวบนเตียง เราซื้อยาคุมกินวันที่ 11 June (แบบฮอร์โมน 2 เม็ดกินห่างกัน 12 ชม.) ตอนนี้ปจด.เราสายไป 3 วันแล้ว(ควรมาวันที่ 11) มีตกขาวนิดหน่อย แต่เราเครียดมากค่ะ เรากลัวท้อง ปกติปจด.เรามาสาย 2-10 วัน แต่ถ้ายิ่งเครียดเรายิ่งสายแต่ไม่เกิน 10 วันค่ะ มีโอกาสท้องมากน้อยแค่ไหนคะ ตอนนี้เราควรทำยังไงดีคะ

สวัสดีครับ จากข้อมูล ถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้นะครับ เบื้องต้นแนะนว่าควรลองซื่อชุดตรวจการตั้งครรภ์มาจรวจก่อนครับ ถ้าสองขีดก็ตั้งครรภ์ครับ และควรไปฝากท้องครับ

สวัสดีครับ
จากที่เล่ามา มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ

โดยปกติ รอบเดือนของเรา จะคลาดเคลื่อนอยู่ระหว่าง 21-35 วัน (บวกลบเจ็ดวันจากรอบก่อนๆ ) อยู่แล้วครับ ถ้ายังอยู่ในช่วงนี้ ก็ยังถือว่าปกติครับ แต่ถ้ามีความเครียด วิตกกังวล ซึ่งเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป ก็อาจทำให้คลาดเคลื่อนไปได้อีกครับ
ในกรณีประจำเดือนไม่มาตามปกติ หรือ ประจำเดือนขาดไป
-ถ้าคนไข้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน การใช้ถุงยางอนามัย หรือการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆไม่ถูกต้อง หรือ ผิดพลาด เช่น ถุงยางอนามัยรั่วซึม หรือ การหลั่งนอก ก็อาจตั้งครรภ์ได้ เบื้องต้นแนะนำว่า ให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะครับ โดยการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยตนเอง สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
(การตรวจนั้น ต้องตรวจถุกต้องตามคำแนะนำและระยะเวลาที่เหมาะสมด้วยนะครับจึงจะเชื่อถือได้ครับ)

-ถ้าคนไข้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เลยหรือตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบการตั้งครรภ์. ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างครับ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ครับ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ การ ติดเชื้อ ทางเพศสัมพันธ์ อาจมำให้มีอาการปวดท้อง หรือ ตกขาว ที่ผิดปกติได้ ซึ่ง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย

4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นครับ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ครับ

ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ครับ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอครับ