มีเพศสัมพันธ์วันนี้ กินยาวันนี้ไปแล้ว แก้ไขอย่างไรคะ. แพงแรกคะ ไม่เคยกิน

หากยาคุมที่ใช้เป็นยาคุมรายเดือนชนิดฮอร์โมนรวม และไม่ได้ใช้ภายใน 5 วันแรกที่มีประจำเดือน กว่าจะมีผลคุมกำเนิดได้จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันครบ 7 วันค่ะ ดังนั้น หากมีไข่ตกในช่วงนี้ ก็มีความเสี่ยงที่จะผสมกับกับอสุจิ (มีการปฏิสนธิ) และมีการฝังตัวที่เยื่อบุมดลูก (มีการตั้งครรภ์) ไปก่อนที่ผลในการคุมกำเนิดจากยาจะเกิดขึ้นนะคะ ดังนั้น ไม่มีประโยชน์ในการคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ

ดังนั้น หากไม่ได้อยู่ในช่วง 5 วันแรกที่มีประจำเดือน แนะนำให้หยุดใช้ยาคุมรายเดือนไปก่อนค่ะ แล้วรีบไปหาซื้อยาคุมฉุกเฉินมารับประทานโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ (แต่การใช้เร็ว โดยใช้ภายใน 72 ชั่วโมงแรก จะมีอัตราการตั้งครรภ์ต่ำกว่าการใช้ที่เวลา 72 - 120 ชั่วโมง)

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่สูงเท่ากับวิธีคุมกำเนิดปกติ แม้รับประทานแล้วก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% นะคะ โอกาสตั้งครรภ์จะสูงขึ้นอีกหลายเท่าหากหลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้ว มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันซ้ำอีกในรอบเดือนเดียวกัน ดังนั้น จนกว่าจะมีประจำเดือนมา หากจะมีเพศสัมพันธ์ซ้ำอีกจะต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์นะคะ

เมื่อใช้ยาคุมฉุกเฉินแล้ว ภายใน 7 วันหลังรับประทานอาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอย ถือเป็นผลข้างเคียงจากยาค่ะ อาจจะมี หรืออาจจะไม่มีก็ได้ การที่มีหรือไม่มีเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้บ่งชี้ว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่ เพราะเป็นเพียงแค่ผลข้างเคียงจากยาเท่านั้นค่ะ

ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาเร่งประจำเดือน ดังนั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีประจำเดือนมาภายใน 7 วันหลังรับประทานยานะคะ โดยปกติ ประจำเดือนจะมาตามรอบเดิมค่ะ อาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้างเล็กน้อยจากวันที่คาดไว้ โดยมักจะไม่มาเร็วหรือช้ากว่าปกติเกิน 7 วันค่ะ

เมื่อมีประจำเดือนมาก็ถือว่าปลอดภัย ไม่มีการตั้งครรภ์แน่นอนแล้ว หากต้องการคุมกำเนิดต่อไปข้างหน้า จึงค่อยเริ่มใช้ยาคุมรายเดือนที่เหลืออยู่ในแผงต่อนะคะ ในเมื่อใช้ไปแค่เม็ดเดียว สามารถใช้เท่าที่เหลือในแผงได้เลยค่ะ ไม่ต้องไปซื้อแผงใหม่มาเพิ่ม หากใช้แบบ 21 เม็ด (ซึ่งจะมีเหลือ 20 เม็ด เพราะใช้ไปแล้ว 1 เม็ด) ก็ใช้จนหมดแผง แล้วเว้น 7 วันก่อนเริ่มใช้แผงต่อไป แต่หากใช้แบบ 28 เม็ด (ซึ่งจะมีเหลือ 27 เม็ด) ก็ใช้จนหมดแผง แล้วต่อแผงใหม่ในวันถัดไปค่ะ

ถ้ามีการใช้ถุงยางร่วมด้วย ให้พิจารณาตามนี้นะคะ

1. ถ้าอยู่ใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ใช้ยาคุมรายเดือนต่อได้เลยค่ะ ไม่ต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉิน มีผลคุมกำเนิดแล้ว ดังนั้น ต่อไปสามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้เลย

2. ถ้าไม่ได้อยู่ใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาคุมรายเดือนที่ใช้จะยังไม่มีผลคุมกำเนิดได้ค่ะ ดังนั้น หากต้องการคุมกำเนิดฉุกเฉิน ต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินนะคะ อย่างไรก็ตาม หากมีการตรวจสอบถุงยางว่าไม่รั่วซึม และมั่นใจว่าใช้ถุงยางถูกต้อง มีโอกาสน้อยที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินก็ได้ (หากใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึม มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงกว่ายาคุมฉุกเฉินอยู่แล้ว)
..
..
..
หากไม่ได้อยู่ในช่วง 5 วันแรกของการมีประจำเดือน หลังจากจัดการตามข้อ2 ไปแล้ว ถ้าต้องการคุมกำเนิดต่อไปข้างหน้า (ในกรณีที่คิดว่าหลังจากวันนี้น่าจะมีเพศสัมพันธ์ต่อไปอีกเรื่อย ๆ) ให้พิจารณาตามนี้ค่ะ

- หากมั่นใจว่าใช้ถุงยางได้ถูกต้อง และไม่มีการรั่วซึม ให้รับประทานยาคุมรายเดือนต่อได้ค่ะ แต่ต้องใช้ถุงยางอนามัยตลอด 7 วันแรกที่รับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม หลังจากนั้นจึงมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งในได้ค่ะ เพราะผลในการคุมกำเนิดเกิดขึ้นแล้ว

- แต่ถ้าไม่มั่นใจว่าใช้ถุงยางถูกต้องหรือไม่ หรือไม่ได้ตรวจสอบว่าถุงยางรั่วซึมหรือเปล่า ให้หยุดใช้ยาคุมรายเดือนไปก่อนค่ะ รอให้ประจำเดือนมาตามปกติ จึงค่อยใช้ยาคุมรายเดือนอีกครั้ง (ใช้เท่าที่เหลือในแผงได้ค่ะ ไม่ต้องซื้อแผงใหม่มาใช้) เมื่อรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะมีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ