สวัสดีคะ กินยาคุมให้นมลูกไปได้22เม็ด กินตรงเวลาตลอด มีอะไรกับแฟนเดือนละครั้ง หลั่งนอก ปล. #มีอะไรกันหลังประจำเดือนหยุด7วันค่ะ นับตั้งแต่วันแรกที่มีประจำเดือน ประจำเดือนวันที่19พฤศจิกายน มีอะไรกันวันที่25พฤศจิกายน หลังจากมีอะไรกัน แล้วกินยาคุมฉุกเฉินเข้าไปอีกในวันที่26พฤศจิกายน ผ่านไปได้7วัน คือวันที่2ธันวาคม มีเลือดออกกระปริบกระปรอยนิดหน่อยค่ะ อยากจะถามค่ะว่า.... 1.แบบนี้จะท้องไหมมากน้อยกี่เปอร์เซ็นต์ค่ะ 2.แล้วยาคุมรายเดือนที่กินไปคุมกำเนิดแล้วหรือยัง 3.แล้วประจำเดือนจะมาเมื่อไหร่ค่ะ ให้นมน้องอยู่ด้วยค่ะ // คลอด5เดือน ประจำเดือนมา2-3ครั้งเองค่ะเพราะให้นมน้อง —— เมื่อวันนี้ตอนเช้า หนูตรวจการตั้งครรภ์แล้ว สรุปขึ้น1ขีดค่ะ ตรวจหลังมีเพศสัมพันธ์ 23วันค่ะ แบบนี้สรุปว่าไม่ท้องชัวร์ไหมค่ะคุณหมอ

สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมนั้นจะทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.3-9% เท่านั้นโดยไม่จำเป็นต้องรับประทานบาคุมฉุกเฉินครับ และถ้าหากรับประทานยาคุมสูตรให้นมบุตรมานานเกิน 2 วันยาคุมก็จะมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้แล้ว

ในกรณีนี้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ครับ

หากทานยาคุมไปแล้วมากกส่า7วัน หรือเริ่มทานตั้งแต่ช่วงที่มีประจำเดือน จะมีผลคุมกำเนิดทันที ป้องกันการตั้งครรภ์ได้95-99%ครับ ไม่ต้องทานยาคุมฉุกเฉินอีกครับ หากตรวจหลังมีเพศสัมพันธ์นานกว่า14วัน ขึ้น1ขีด ก้ไม่ท้องครับ ประจำเดือน อาจมาช้ากว่าปกติได้ไม่เกิน7วันครับ ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้ประจำเดือนเลื่อนได้ครับ

สวัสดีครับ
1. โอกาสการตั้งครรภ์ได้ประมาณร้อยละ 0.3-9 ครับ โดยคิดจากโอกาสจากการทานยาคุมแบบรายเดือนที่ผู้ถามใช้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในทั้งหมด
2. หากทานยาคุมเกิน 7 วัน หรือทานในช่วงประจำเดือน 5 วันแรกยาคุมแบบรายเดือนจะมีประสิทธิภาพทันทีครับ
3. ตรวจแล้วขึ้นเพียงขีดเดียวแปลว่าไม่ตั้งครรภ์ครับ หากผู้ถามทานยาคุมแบบรายเดือนอยู่ ไม่จำเป็นต้องทานแบบฉุกเฉินเสริมครับ และหากทานยาแบบรายเดือนอย่างถูกต้องก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์มากครับ

1. ถ้าเริ่มรับประทานยาคุมถูกต้อง และรับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอมาโดยตลอด ไม่ได้ลืม หรือไม่ได้รับประทานเอ็กซ์ลูตอน/เดลิต้อนช้ากว่าเวลาปกติเกิน 3 ชั่วโมง หรือไม่ได้รับประทานซีราเซทช้ากว่าเวลาปกติเกิน 12 ชั่วโมง ก็มีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 0.3 - 9% ตามผลป้องกันปกติของยาคุมรายเดือน

แต่ถ้ายาคุมแผงนี้เป็นแผงแรก ก็หมายถึงผู้ถามมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนที่จะมีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน จึงถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์อย่างน้อย 15% ตามผลป้องกันของยาคุมฉุกเฉินนะคะ

2. ถ้าผู้ถามเริ่มรับประทานยาคุมแผงนี้เป็นแผงแรกหลังคลอดบุตร ก็ถือว่าใช้ไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จึงต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันไปก่อน จนกว่าจะรับประทานยาคุมสูตรหญิงให้นมบุตรติดต่อกันครบ 2 วัน (48 ชั่วโมง) ก่อนนะคะ

แต่หากมีผลคุมกำเนิดจากยาแล้วก็สามารถมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติค่ะ

3. ผลข้างเคียงเด่น ๆ ของยาคุมชนิดนี้ก็คืออาจทำให้ผู้ใช้มีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือน จึงไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าผู้ถามจะมีประจำเดือนมาอีกครั้งในวันที่เท่าไหร่นะคะ

โดยปกติ ถ้าเริ่มใช้ถูกต้องและรับประทานตรงเวลา เมื่อหมดแผงเดิมก็สามารถเริ่มแผงใหม่ในวันถัดมาได้เลย แม้ว่าจะไม่มีประจำเดือนค่ะ แต่ในกรณีของผู้ถาม เนื่องจากเริ่มรับประทานไม่ถูกต้อง และยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพต่ำในการป้องกันการตั้งครรภ์ จึงควรตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนก่อนที่จะต่อยาคุมแผงใหม่นะคะ

4. ซึ่งถ้าผู้ถามตรวจการตั้งครรภ์แล้ว หากใช้ชุดทดสอบถูกวิธีตามที่ระบุไว้ในฉลาก และตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอนห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน เมื่อได้ผลตรวจออกมาเป็น 1 ขีด ก็เชื่อมั่นได้มากกว่า 99% ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ

และถ้ารับประทานยาคุมตรงเวลาสม่ำเสมอ เมื่อหมดแผงนี้แล้วก็ให้ต่อยาคุมแผงใหม่ในวันถัดมาได้เลย ไม่จำเป็นจะต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อนนะคะ

ในช่วงที่รับประทานยาคุมสูตรให้นมบุตรอยู่จะมีผลข้างเคียงทำให้ประจำเดือนขาดหายไปได้ครับ ซึ่งถ้าหากมีความกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูให้แน่ใจได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ขออนุญาตทบทวนข้อมูลดังนี้นะคะ

จากข้อมูลที่ว่า "กินยาคุมให้นมลูกไป 22 เม็ด" หมายถึง ผู้ถามเริ่มรับประทานยาคุมแผงนี้เป็นแผงแรก (เพราะใช้มา 22 เม็ด) และยาคุมที่ใช้เป็นยาคุมสูตรหญิงให้นมบุตร (ได้แก่ เอ็กซ์ลูตอน, เดลิต้อน หรือซีราเซท) หรือเปล่าคะ?

ถ้าใช่... และถ้าวันนี้เป็นวันที่รับประทานเม็ดที่ 22 หรือ 23 ของแผง ก็หมายถึงผู้ถามเริ่มรับประทานเม็ดแรกของแผงนี้ในวันที่ 26 หรือ 27 พฤศจิกายนนะคะ

และจากข้อมูลที่ว่า ประจำเดือนรอบล่าสุดมาวันที่ 19 พฤศจิกายน นั่นหมายถึงผู้ถามเริ่มรับประทานยาคุมแผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนค่ะ การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 25 พฤศจิกายน จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22% ตามวิธีหลั่งนอก (ถ้าคิด "หน้า 7 - หลัง 7" ก็จะเป็น 24%)

แต่เมื่อรับประทานยาคุมฉุกเฉินในวันที่ 26 พฤศจิกายน จึงถือว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้นมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% ตามผลป้องกันของยาคุมฉุกเฉิน (ไม่ใช่ 0.3 - 9% ตามผลป้องกันของยาคุมรายเดือนค่ะ)
..
..
และถ้าเริ่มรับประทานยาคุมแผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องรับประทานยาคุมสูตรหญิงให้นมบุตรติดต่อกันให้ครบ 2 วัน (48 ชั่วโมง) ก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้

ไม่จำเป็นจะต้องใช้ติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนเหมือนกับยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม แต่สำคัญคือต้องรับประทานให้ตรงเวลาอย่างเคร่งครัด เพราะยาคุมชนิดนี้มีความยืดหยุ่นในการรับประทานผิดเวลาน้อยกว่ายาคุมชนิดฮอร์โมนรวมมากค่ะ
..
..
..
ส่วนการตรวจตั้งครรภ์ ถ้าใช้ชุดทดสอบถูกวิธี และตรวจในเวลาที่เหมาะสม ผลตรวจที่ออกมา 1 ขีด ก็เชื่อมั่นได้มากกว่า 99% ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ