สวัสดีค่ะ มีเพศสัมพันธ์ เป็นครั้งที่สาม ค่อนข้างแรง หลังจากมีเพศสัมพันธ์รู้สึกปวดๆบริเวณอวัยวะเพศ เวลามือไปโดนแล้วจะปวด พอเช้าอีกวัน มีเลือดออกตอนฉี่ ตอนแรกคิดว่าประจำเดือนมาเลยใส่ผ้าอนามัยไว้ แต่ไม่มีอาการปวดท้องเหมือนเดือนก่อนๆละไม่ใช่ช่วงที่มีประจำเดือน ดูผ้าอนามัยรอบเเรกมีเลือดเปื้อนนิดหน่อย พอดูครั้งที่สอง เลือดใหม่ไม่ไหลออกมา และเลือดตอนแรกแห้งไปแล้ว แต่พอเอากระดาษทิชชู่ซับ มีเลือดติดออกมากับกระดาษทิชชู่ อยากทราบว่าอาการแบบนี้คืออะไรคะ (เคยกินยาคุมฉุกเฉิน แต่ใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้ง)

สวัสดีครับ
อาการเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์นั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- เป็นการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ประจำเดือนกำลังจะมา
- มีการบาดเจ็บของช่องคลอดหรือปากมดลูกจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีภาวะปากมดลูกปลิ้นซึ่งเป็นภาวะปกติในผู้หญิงบางคนแต่ส่งผลให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น
- ผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน มักทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางระหว่างรอบเดือนได้ โดยเฉพาะในช่วงประมาณ 7 วันหลังรับประทานยา
- มีการอักเสบของปากมดลูกหรืออุ้งเชิงกราน
- มีติ่งเนื้อ เนื้องอก หรือมะเร็งปากมดลูก
- เนื้องอกมดลูก

หากครั้งที่ผ่านมาได้มีเพศสัมพันธ์อย่างรุนแรงมาก่อน ก็มีโอกาสที่เลือดจะออกมาจากการบาดเจ็บภายในหรือการอักเสบติดเชื้อภายในช่องคลอด ปากมดลูก หรืออุ้งเชิงกรานได้มากครับ

หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจเพิ่มเติมดูครับ จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะถ้ามีเลือดออกติดต่อกันนานเกิน 1-2 วัน มีเลือดออกในปริมาณมาก มีตกขาวผิดปกติ หรือมีอาการปวดภายในช่องคลอดหรือปวดท้องน้อยร่วมด้วย

สาเหตุที่ทำให้มีเลือดและลิ่มเลือดออกมาเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ ในตอนนี้หมอคงบอกได้อย่างกว้างๆว่าสาเหตุที่ทำให้เลือดออกเป็นจากอะไรได้บ้าง การวินิจฉัยที่แน่นอนต้องอาศัยการตรวจภายในร่วมด้วยเพื่อดูว่ามีการบาดเจ็บฉีกขาดภายในอวัยวะเพศหรือไม่ มีการอักเสบติดเชื้อหรือไม่ หรือเลือดออกมาจากสาเหตุอื่นๆ

แนะนำให้ไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจเพิ่มเติมดูครับ

จากการดูประวัติ พอสังเขป ที่คนไข้เล่าเกี่ยวกับอาการเลือดออก และสัมพันธ์กับการปัสสาวะ ยังมีอีก กรณีนึงค่ะ เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์อย่างรุนแรง หรือมีเพศสัมพันธ์ขณะยังช่องคลอดไม่พร้อม ทำให้มีแผล มีการกระทบกระเทือนบริเวณช่องคลอดและท่อปัสสาวะ อาจทำให้มีการอักเสบ หรือ ติดเชื้อได้ค่ะ เช่น กะเพาะปัสสาวะอักเสบ (honeymoon cystitis) ซึ่งมักเกิดตามหลังการมีเพศสัมพันธ์ อาจทำให้มีอาการ ปัสสาวะแสบขัด หรือมีเลือดออกได้ แนะนำให้คนไข้ ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและตรวจปัสสาวะค่ะ ถ้ามีการติดเชื้อ จะได้ยาฆ่าเชื้อมารับประทานค่ะ

ถ้าไม่มีอาการปัสสาวะแสบขัดเลย สาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกน่าจะมาจากภายในช่องคลอดและส่วนอื่นของภายในอวัยวะเพศเป็นหลัก ตามหลายๆสาเหตุที่ได้ยกตัวอย่างไปก่อนหน้านี้ครับ

แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุดูอีกครั้งนะครับ

เลือดที่ออกมาทางช่องคลอดนั้นเป็นไปได้จากหลายสาเหตุตามที่กล่าวไปข้างต้นครับ

เลือดดังกล่าวอาจเป็นประจำเดือนได้หากมาในช่วงที่ใกล้เคียงกับเวลาที่ประจำเดือนมาตามปกติ และมีลักษณะใกล้เคียงกับประจำเดือน คือ
- มานาน 3-7 วัน โดยในวันแรกๆมีเลือดออกมากกว่าวันหลังๆ
- ใช้ผ้าอนามัยวันละ 2-3 แผ่น
- เลือดเป็นเลือดเก่าสีคล้ำๆ

เลือดดังกล่าวอาจหยุดได้เองหากสาเหตุเป็นเพียงแค่การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆภายในช่องคลอด แต่อาจหยุดได้ยากถ้าหากมีสาเหตุมาจากการฉีดขาดของปากมดลูก มีการอักเสบติดเชื้ออยู่ภายใน หรือมีรอยโรคบางอย่างซ่อนอยู่ภายใน

ถ้าเลือดออกในปริมาณไม่มากจะรอสังเกตดูไปก่อนก็ได้ครับ แต่ถ้าเลือดออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก เลือดออกมานาน 1-2 วันแล้วไม่มีท่าทีว่าจะหยุด มีอาการปวดท้องน้อย มีตกขาวผิดปกติ มีอาการอ่อนเพลียเวียนศีรษะจากการเสียเลือด หรือมีอาการในลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยๆเวลามีเพศสัมพันธ์ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและให้การรักษาครับ