ฝังเข็มมา ประจำเดือนมาแล้วก็หยุดแล้วก็มา มีอาการปวดท้องน้อยแบบนี้เสี่ยงเป็นมะเร็งปากมดลูกไมคะ

ผลข้างเคียงหลักของยาฝังคุมกำเนิด คือ ประจำเดือนผิดปกติค่ะ มีเลือดออกกระปริบกะปรอย

อย่างไรก็ตาม ควรตรวจภายใน คัดกรองมะเร็งปากมดลูกสม่ำเสมอ ทุก 1-2 ปีค่ะ

สวัสดีครับ
อาการดังกล่าว น่าจะมาจากผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดครับ

ส่วนความเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูกนั้น แนะนำให้ตรวจภายในประขำปีและ pap smear จะบอกผลได้ดีกว่าครับ

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย คือ ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีเลือดออกทางช่องคลอดเมื่อใด โดยบางคนเมื่อเวลาผ่านไป อาการดังกล่าวจะหายไปเอง ส่วนบางคนจะพบว่ามีอาการปวดท้องประจำเดือนน้อยลง หรือบางคนจะพบว่าทำให้ประจำเดือนขาดได้
ได้
**กรณี มีเลือดออกกระปริบกระปรอย การไปพบแพทย์ จะมียาช่วยได้ครับ โดยให้ฮอร์โมนเอสโตรเจน 0.05 มิลลิกรัม วันละ 1 เม็ด ประมาณ 7-10 วัน เพื่อลดอาการเลือดออกกระปริดกระปรอยครับ

ผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้แก่
-อารมณ์แปรปรวน
-มีภาวะซึมเศร้า
-ปวดศีรษะ
-ปวดท้อง
-คลื่นไส้
-สิวขึ้น
-มีอาการกดเจ็บที่เต้านม
-บวมน้ำ
-บางคนจะพบว่ามีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเพราะยาฝังคุมกำเนิดหรือไม่
-ยาฝังคุมกำเนิดอาจมีปฏิกิริยาต่อยาชนิดอื่น ๆ ได้ครับ
ผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะหยุดไปเองหลังผ่านช่วงเดือนแรก ๆ ที่ฝังยาไป แต่หากพบว่ามีอาการต่อไปอีก หรือมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง รวมไปถึงหากพบว่ามีผลข้างเคียงอื่น ๆ เกิดขึ้น ควรไปพบแพทย์ครับ

สวัสดีครับ
การที่ประจำเดือนขาดหายไปและอาการปวดท้องน้อยไม่ใช่อาการที่จะบ่งบอกถึงการเป็นมะเร็งปากมดลูกครับ และในช่วงที่ฝังยาคุมอยู่ประจำเดือนก็อาจมีการขาดหายไปจากผลข้างเคียงของยาคุมได้

อย่างไรก็ตามหมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายในคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปีเพื่อที่ให้สามารถตรวจพบโรคและให้การรักษาได้ตั้งแต่ในระยะแรกในกรณีที่มีเซลล์ปากมดลูกผิดปกติไปครับ

มะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV ที่บริเวณปากมดลูกครับ โดยเมื่อเชื้อไวรัสที่เข้าไปอยู่ในเซลล์ของปากมดลูกแลเวก็จะมีผลให้เซลล์มีลักษณะและการเพิ่มจำนวนที่ผิดปกติไปจนกลายเป็นมะเร็งตามมาครับ

ในช่วงที่ฝังยาคุมอยู่อาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอดและมีอาการปวดท้องได้ครับได้

อย่างไรก็ตามอาการเลือดออกกระปริดกระปรอยนั้นก็ยังอาจเกิดได้จากอีกหลายสาเหตุ เช่น
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง
- มีความผิดปกติของมดลูกหรือปากมดลูก

ถ้าหากเลือดออกมาติดต่อกัน 9 วันแล้วหมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการให้แน่ใจก่อนว่าไม่ได้มีความผิดปกติอื่นซ่อนอยู่ครับ