September 30, 2019 21:08
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากเหตุการณ์ที่เล่ามานี้ถือว่ามีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้น้อยมากครับ เนื่องจากได้มีการรับประทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่องมาโดยตลอดซึ่งก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาโดยไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัย การที่ถุงยางอนามัยแตกในกรณีนี้จึงไม่ได้เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ครับ
ทั้งนี้ถ้าหากได้มีประจำเดือนมาตามปกติแล้วคือมีประจำเดือนมาในช่วงที่รับประทานยาคุมเม็ดแป้ง 4-7 เม็ดสุดท้ายของแผง (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อยาคุม) ก็ไม่ควรมีการตั้งครรภ์ครับ
ส่วนเลือดที่ออกมาผิดปกติในระหว่างรอบเดือนนั้นก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- มีการแข็งตัวของเลือดยากกว่าปกติ
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใน
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์นั้นก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
วันที่ 12 กันยายน มีเพศสัมพันธ์แล้วเกิดถุงแตก ทานยาคุม 28 เม็ดมาตลอดระยะเวลา 3-4 เดือน วันที่ 24 กันยายนมี ปจด มาน้อยแต่มาติดต่อกันถึง 5 วัน แล้วหนูก็หยุดทานยาคุมไป 3 วันมีอาการ ปวดท้องน้อย ปวดหลัง ปล.หนูกลัวว่าเลือดนั้นจะเป็นเลือดล้างหน้าเด็กหรือเป็น ปจด ก็ไม่แน่ใจ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)