คือหนูรู้สึกไม่มีความสุขเลย ร้องไห้บ่อย ชอบน้อยใจเวลาไปรรไม่มีความสุขเลยหนูย้ายห้องด้วยหนูไม่ค่อยแฮปปี้กับเพื่อนใหม่แต่เค้าก็ไม่ได้แย่นะคะก็ช่วยเหลือหนูรู้สึกแย่กับตัวเองมากๆหนูโทษตัวเองว่าตัดสินใจผิดที่ย้ายห้องหนูซึมไปเลยไม่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อนบางทีก็ดิ่งมากๆจะเป็นแบบนี้ทั้งวันแต่จะแย่มากตอนอยู่คนเดียวการกินก็เปลี่ยนกินเยอะมากๆจนคนรอบข้างทักหนูอยากรู้ว่ามันเป็นอะไรกันแน่คะ

อาจเป็นอาการของภาวะซึมเศร้าได้ครับ
เบื้องต้นแนะนำให้ หาเวลาออกกำลังกาย เช่น วิ่ง เต้นแอโรบิค, ดูภาพยนตร์ตลกหรืออ่านหนังสือการ์ตูนตลก, ระบายผ่อนคลายความเครียดบ้าง เช่น ร้องไห้ ตะโกน เขียนระบายความรู้สึก, พูดคุยกับคนที่ไว้ใจ จะทำให้ลดความเครียด ความกังวลได้ครับ และสุดท้ายคือ มองโลกในแง่ดี คิดว่าทุกปัญหามีทางแก้ครับ ส่วนโทรปรึกษาเบื้องต้นจะมีสายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 ได้ครับ
โดยแบบประเมินโรคซึมเศร้ามีดังนี้ครับ
จะมีอาการดังต่อไปนี้ 5 อาการขึ้นไป โดยอาการมีดังนี้

1. อารมณ์ซึมเศร้า (เด็กและวัยรุ่นอาจจะเป็นอารมณ์หงุดหงิดแทนได้ครับ)
2. มีความสนใจในกิจกรรมต่างๆ แทบทั้งหมดลดลงมาก
3. นํ้าหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้นมาก (โดยเปลี่ยนแปลงมากกว่าร้อยละ 5 ต่อเดือน) หรือเบื่ออาหารหรือเจริญอาหารมากขึ้น
4. กระวนกระวาย หรือดูเชื่องช้าลง
5.นอนไม่หลับ/หลับมากไป
6. อ่อนเพลีย ไม่มีแรงแรง
7. มีสมาธิลดลง ใจลอย หรือลังเลใจ
8.รู้สึกว่าตนเองไร้ค่า
9. มีความคิดเรื่องการตาย คิดอยากตาย

จะต้องมีอาการในข้อ 1 หรือ 2 อย่างน้อย 1 ข้อ และมีอาการเป็นอยู่นาน 2 สัปดาห์ขึ้นไป และควรมีอาการเหล่านี้แทบจะตลอดเวลาครับ

ดีที่สุดน่าจะไปพบแพทย์เฉพาะทาง ทางด้านจิตใจ(จิตแพทย์)โดยเฉพาะครับ เพราะจะได้วินิจฉัยแยกโรคอื่นๆที่มีอาการคล้ายกัน เช่น ภาวะเศร้าการปรับตัวไม่ได้จากปัญหาที่มากระทบจิตใจ, ภาวะวิตกกังวล โรคทางกายอื่นๆ และคุณหมอจิตแพทย์จะชำนาญในการรักษาและให้ยา อีกทั้งจะได้ให้คำแนะนำและติดตามอาการครับ

สวัสดีครับ
หากมีปัญหาที่กระทบต่อสุขภาพจิตต่างๆ คิดว่าไม่สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆเหล่านั้นได้ การพบจิตแพทย์เป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ตามสิทธิการรักษาครับ
สามารถเช็คสิทธิการรักษาได้จากเว็บไซต์ http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml
________________________

การที่คนเราต้องเจอกับเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงในชีวิต แล้วไม่สามารถปรับตัวปรับใจยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้นและไม่สามารถดำเนินชีวิตให้เป็นปกติได้ แบบนี้มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต และจากอาการของหนู อาจบ่งถึงภาวะซึมเศร้าก็เป็นไปได้นะคะ

ซึมเศร้ามีสาเหตุหลักจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้การรับรู้ ความคิด การแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม หากเจอปัญหาหรือมีเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ จะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น

อาการของโรคซึมเศร้า จะมีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 7 ข้อ ต่อเนื่องเกือบทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า
3.อ่อนเพลีย
4.นอนไม่หลับ/หลับมากเกินปกติ
5.เบื่ออาหาร/ทานได้เยอะกว่าปกติ
6.ขาดสมาธิ
7.หงุดหงิดง่าย
8.ขี้น้อยใจ รู้สึกไร้ค่า
9.อยากตาย /อยากทำร้ายตัวเอง

หากมีอาการเข้าข่ายซึมเศร้าควรพบจิตแพทย์ทันที ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม

การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือการรักษาด้วยยา ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้ควบคุมความคิดอารมณ์และพฤติกรรมต่างๆได้เหมาะสม ร่วมกับการทำจิตบำบัด จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจทำให้ปรับตัวต่อปัญหาต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ

ในระหว่างทำการรักษา ควรทานยาสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ งดสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งจะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นนะคะ

สวัสดีครับ

เรื่องบางเรื่องหากว่ามันผ่านไปแล้วก็ไม่อยากจะให้มองมันว่าเป็นความผิดพลาดนะครับ และถึงแม้ว่าเราอาจจะมีปัญหาในเรื่องการคบหากับเพื่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของเรา หรือว่าเราเองจะไม่สามารถมีเพื่อนได้เลยนะครับ หากรู้สึกว่าเพื่อนใหม่เองก็ไม่ได้แย่อะไร แต่จริงๆแล้วเรากำลังคาดหวัง หรือต้องการอะไรจากความสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ของเราครับ หากรู้สึกว่าความคิด ความคาดหวัง หรือความรู้สึก อึดอัด เป็นทุกข์ เศร้า มันเข้ามารุมเร้า การพูดคุยกับเพื่อนๆที่สนิท คุณพ่อคุณแม่ หรืออาจารย์ก็เป็นหนทางหนึ่งที่อาจจะช่วยบรรเทาอารมณ์ ความรู้สึกที่เกิดขึ้น และอาจจะได้เรียนรู้ซึ่งแนวคิด หรือการคิดในรูปแบบอื่นๆที่จะทำให้เรามองความสัมพันธ์ที่มีอยู่ต่างออกไป หรือสามารถหาคำตอบให้กับความต้องการของตนเองได้นะครับ

ซึ่งหากว่าหนูยังรู้สึกว่าต้องการตัวช่วยจากผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม การบอกผู้ปกครองให้พาไปพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการประเมินและการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปก็เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ครับ

นอกจากนั้นการหันกลับมาดูแลตนเองให้มากขึ้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน โดยหนูสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาให้ตนเองรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือสนุกผ่อนคลาย และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความรู้สึกเศร้าและการโทษตัวเองของหนูลดน้อยลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวครับ

สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งในเรื่องของอารมณ์ที่เกิดขึ้น สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หนูจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลาครับ