September 01, 2019 15:59
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
หลังการรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเติมอีกครับ
หลังจากนี้ถ้าหากจะมีเพศสัมพันธ์อีกหมอก็แนะนำให้มีการป้องกันทุกครั้ง และให้รอสังเกตดูว่าประจำเดือนจะมาตามปกติหรือไม่ ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ สามารถตั้งครรภ์ได้ครับ เบื้องต้นแนะนำว่าควรซื้อยาคุมฉุกเฉิน มากิน ภายใน 72 ชั่วโมงครับ จะสามารถป้องกันกำเนิดได้ ประมาณ 80%ครับ
และเริ่มตรวจการตั้งครรภ์ได้หลังจากการที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว อย่างน้อย 14 วัน โดยใช้ปัสสาวะตอนเช้าในการตรวจครับ ผลจะเชื่อได้ 99.9% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
เบื้องต้น ไม่มีการคุมกำเนิดใดที่ให้ผลร้อยเปอร์เซนต์ครับ การรับประทานยาคุมฉุกเฉิน จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มาก แต่โอกาสการตั้งครรภ์ยังมีสูงกว่าการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง โดยวิธีอื่นๆครับ
การคุมกำเนิดโดยใช้วิธีการคุมกำเนิดฉุกเฉินแนะนำให้ใช้เฉพาะผิดพลาดจริงๆเท่านั้น เช่น ถุงยางอนามัยขาด เป็นต้น ไม่แนะนำให้ใช่เป็นวิธีการคุมกำเนิดเพียงอย่างเดียวครับ
>> การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้อวกัน หากรับประทานภายใน 24 ชม แรกหลังมีเพศสัมพันธ์ จะเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% -90% (มีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 10-15%)
ดังในกรณีของคนไข้ครับ
>> ถ้ากินภายใน 72 ชม ประสิทธิภาพได้ประมาณ 75% ครับ และช้าสุดที่ 120 ชม ประสิทธิภาพ ของการป้องกันการตั้งครรภ์ยังพอมีอยู่ แต่ลดลงไปมากครับ
>>ถ้าคนไข้ต้องการประสิทธิภาพการคุมกำเนิดมากขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนไปคุมกำเนิดโดยใช้ ห่วงอนามัยชนิดเคลือบสารทองแดงก็ได้ครับ ประสิทธิภาพจะสูงกว่ายาคุมกำเนิดในช่วง 72-120 ชมครับ (สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 0-120 ชมได้ดี และมีประสิทธิภาพประมาณ 99%) ครับ
อย่างไรก็ตาม หลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน อาจมีผลข้างเคียงครับ
ผลข้างเคียงหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ได้แก่อาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว และหลังจากรับประทานในช่วงสัปดาห์แรก อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ แต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่เป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินครับ ประจำเดือนของคนไข้ ควรมาตรวรอบตามปกติค่ะ หากพบว่าประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติเกิน 1-3 สัปดาห์ (หรือ 14 วันหลังจากมีเพศสัมพันธ์) ให้ทดสอบการตั้งครรภ์ หรือพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
หากมีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่มีการป้องกัน หรือป้องกันแล้วเกิดผิดพลาด เช่น ถุงยางอนามัยขาด หลวม รั่ว เป็นต้น การรับประทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินจึงเป็นทางออกของการป้องกันการตั้งครรภ์ครับ หากรับประทานอย่างถูกต้องจะมีประสิทธิภาพประมาณ 80-85% ครับ ก่อนอื่นต้องทราบว่ายาคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ใช่ยาที่ใช้ขับประจำเดือน แต่ผลข้างเคียงของยาที่อาจจะพบได้คือการมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ซึ่งมักจะเกิดในช่วงภายหลังการทานยาชนิดนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ เลือดที่ออกมานั้นไม่ใช่ประจำเดือน และไม่ได้บ่งบอกว่าจะไม่มีการตั้งครรภ์ครับ ประจำเดือนจริงๆของผู้ที่ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมักจะมาปกติตามรอบเดือน ในช่วงเวลาเดิม แต่อาจจะเลื่อนได้บ้างครับ หากพ้นกำหนดรอบเดือนตามปกติแล้วประจำเดือนยังไม่มา ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจจะมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้ แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 2 สัปดาห์ครับ โดยสามารถหาซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ตามร้านขายยาทั่วไปมาทดสอบได้ด้วยตนเองครับ หากทดสอบการตั้งครรภ์อย่างถูกวิธี ผลการทดสอบมีความน่าเชื่อถือสูงมากครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ยาคุมฉุกเฉิน ทำให้เลือดออกกระปริดกระปรอย และทำให้ประจำเดือนมาเร็วขึ้น/ช้าลงได้ครับ แต่เลื่อนเพียงเล็กน้อยครับ
ส่วนถ้าประจำเดือนไม่มาช่วงรอบเดือน แนะนำให้ซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเองมาทดสอบครับ โดยเก็บปัสสาวะหลังตื่นนอนซึ่งเป็นปัสสาวะใหม่ โดยตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2 สัปดาห์ และถ้าผลลบแนะนำให้ทดสอบซ้ำอีกครั้งหลังจากครั้งแรกอย่างน้อย 2วัน ถึง 1สัปดาห์ โดยเปลี่ยนยี่ห้อการตรวจครับ
ยาคุมฉุกเฉิน ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่แนะนำให้รับประทานครับ แนะนำให้คุมกำเนิดก่อนมีเพศสัมพันธ์จะดีกว่าครับ เช่น ยาคุม ยาฝัง และใช้ถุงยางอนามัยครับ
เพราะยาคุมฉุกเฉินจะจะทำให้สภาพแวดล้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกเปลี่ยนแปลง ไม่ให้เกิดการปฏิสนธิหรือไม่ให้เกิดการฝังตัว และทำให้มีผลต่อฮอร์โมน ผู้ใช้อาจมี ประจำเดือนผิดปกติ คลื่นไส้ ถ้าใช้บ่อยเพิ่มความเสี่ยงตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
กินยาคุมฉุกเฉินไปเเล้ว ต้องเช็คอะไรอีกรึป่าวครับยังอยู่ใน72ชม เเต่เกิน24ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)