สวัสดีคะ หนูสงสัยว่าจะเป็นแพนิคคะ คือหนูมีอาการ มึนหัว ตาลาย แน่นหน้าอกซ้าย มือชา แขนไม่ค่อยมีแรง หายใจไม่อิ่ม เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ไปหาหมอตรวจแล้วคลื่นหัวใจปกติ ปอดปกติ ให้ยาคลายเส้นมากิน หนูกินมา5วันแบ้วไม่ดีขึ้นเลยคะ หนูเป็นแพนิคหรือเปล่าคะ

สวัสดีครับ
อาการตามที่เล่ามานั้นมีโอกาสที่จะเกิดจากโรคแพนิคได้แต่ก็ควรได้รับการตรวจประเมินหาโรคทางกายต่างๆให้แน่ใจก่อนว่าไม่ได้มีอะไรที่เป็นสาเหตุครับ รวมถึงลักษณะของอาการแพนิคนั้นก็จะต้องมีอาการที่กำเริบขึ้นมาอย่างเฉียบพลันเป็นเป็นๆหายๆ อาการแต่ละครั้งไม่ควรเป็นนานกว่า 1 ชั่วโมงครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการซ้ำอีกครั้งก่อน ซึ่งในกรณีนี้ก็ควรได้รับการตรวจประเมินหาโรคอื่นๆเพิ่มเติมด้วย เช่นความผิดปกติของหูชั้นใน ไมเกรน ไทรอยด์เป็นพิษ ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ภาวะโลหิตจาง ปัญหาสายตา เป็นต้น

ถ้าหากได้ตรวจประเมินอาการอย่างละเอียดแล้วไม่พบสาเหตุทางด้านร่างกายจริงๆก็ให้ไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการอีกครั้งครับ

อาการแพนิคเกิดจากความวิตกกังวลที่มีมากเกินปกติ จนกระตุ้นให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานไวเกิน ทำให้มีอาการแสดงออกทางกาย ได้แก่ ใจสั่น หายใจเหนื่อยหอบ เจ็บแน่นหน้าอก มือ เท้าชา หน้ามืด เป็นลม ได้ค่ะ และเมื่อผู้ป่วยไม่ทราบกลไกของการเกิดอาการจะยิ่งมีความวิตกกังวลกลัวมากขึ้น จนควบคุมตัวเองไม่ได้ และอาการที่เกิดขึ้นมักจะคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นตอนไหน และอาการเหล่านี้ส่งผลต่อการดำรงชีวิตประจำวัน จนไม่กล้าไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะกลัวจะมีอาการจนถึงแก่ชีวิต อาการส่งผลกระทบต่อการงาน การเรียน เป็นต้น

หากมีลักษณะอาการดังที่กล่าวมา และมีอาการต่อเนื่องนานเกิน 6 เดือน โดยที่ไปตรวจหาสาเหตุทางร่างกายแล้วไม่พบความผิดปกติ ก็อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นอาการของแพนิคได้สูงค่ะ

การรักษาแพนิค จะรักษาด้วยยาเพื่อลดความวิตกกังวล และ การทำจิตบำบัด /การฝึกเทคนิคผ่อนคลายความเครียด จะช่วยให้อาการดีขึ้นค่ะ

ในกรณีที่เริ่มมีอาการควรตั้งสติ กำหนดลมหายใจเข้าออกช้าๆ ลึกๆ และบอกตัวเองว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลมาจากความวิตกกังวล ไม่ได้มีอันตรายร้ายแรง หากสามารถควบคุมให้อาการสงบได้

หากลองฝึกแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควบคุมอาการไม่ได้ ควรพบจิตแพทย์นะคะ รับการรักษาตามแนวทางที่เหมาะสมต่อไป

ในกรณีที่มีอาการที่คล้ายกับโรคแพนิคเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆก็ควรต้องได้รับการตรวจประเมินอาการจากแพทย์ทางกายโดยละเอียดก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีความผิดปกติทางกายซ่อนอยู่ตามที่หมอได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ครับ

ถ้าหากได้ตรวจประเมินอาการทางกายอย่างครบถ้วนแล้วไม่พบสาเหตุ ก็สามารถไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมต่อได้เพื่อที่จะได้หาสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้นต่อไปว่าเกิดจากโรคแพนิคจริง หรือเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ความวิตกกังวล ความกลัวต่อสถานการณ์ สถานที่ หรือสิ่งของบางอย่าง เป็นต้น จากนั้นแพทย์ก็จะเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมให้ต่อไปครับ