November 30, 2019 23:47
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ไม่ว่าจะเคยรับประทานยาคุมติดต่อกันมานานแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อหยุดใช้ก็ไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องแล้วนะคะ
การมีเพศสัมพันธ์โดยป้องกันด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำอย่างการหลั่งนอก มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22% ค่ะ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่สูงกว่าการใช้ยาคุมรายเดือนหรือการใช้ถุงยางอนามัยมากนะคะ
หากยังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ สามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินได้ค่ะ หากใช้เร็วและครบขนาดอาจช่วยลดความเสี่ยงให้เหลือเป็น 15% แทนได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่มีประจำเดือนมา แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนนะคะ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
ส่วนยาคุมรายเดือน ไม่มีผลคุมกำเนิดย้อนหลังนะคะ ถ้าผู้ถามมีการตั้งครรภ์ไปแล้ว ต่อให้รับประทานยาคุมรายเดือนต่อไป แต่การตั้งครรภ์ก็จะยังอยู่เหมือนเดิม
และถ้าใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ในกรณีที่ยังไม่มีการตั้งครรภ์ เมื่อเริ่มใช้แผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดขึ้นมาได้ ในตอนนี้จึงยังไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาค่ะ ดังนั้น ถ้าจะใช้ต่อก็ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือใช้ถุงยางร่วมด้วยทุกครั้งจนกว่าจะมีผลป้องกันจากยาคุมนะคะ
หรือจะหยุดใช้ไปก่อน แล้วเมื่อประจำเดือนมาจึงค่อยเริ่มใช้ก็ได้ค่ะ ถ้าใช้ยาคุมแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอปรึกษาคุณหมอค่ะ ก่อนหน้านี้ทานยาคุมติดต่อกันมาตลอด และอยากเลิกทานยาคุม จึงหยุดทานยาคุม เม็ดสุดท้ายที่ทานคือวันที่ 20/10/62 ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา มีเพศสัมพันธ์กับแฟนโดยการหลั่งนอกตลอด จนวันนี้ประจำเดือนยังไม่มา เลยอยากทราบว่าจะมีโอกาสตั้งครรภ์ไหมคะ (แต่เพิ่งจะกลับมาทานยาคุมใหม่อีกครั้งเมื่อวันที่ 27/11/62 ค่ะ)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)