August 02, 2019 09:44
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยิ่งกินเร็วเท่าไหร่ หลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งดีค่ะ โดยตามหลักการ ให้กินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันยืดหยุ่นให้ถึง 100 ชั่วโมงแล้วค่ะ
อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉิน ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ดีไม่เท่า การคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ เช่น การกินยาคุมปกติค่ะ (ยาคุมปกติ ถ้ากินถูกวิธี ประสิทธิภาพคุมกำเนิด มากกว่า 90 % แต่คุมฉุกเฉิน อาจจะแค่ประมาณ 80% - 85%
เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ แนะนำใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นค่ะ ใช้ยาคุมฉุกเฉิน เมื่อจำเป็นเท่านั้น
ยาคุมฉุกเฉิน คือ ฮอร์โมนเพศหญิงขนาดสูงค่ะ สูงกว่าระดับธรรมชาติในร่างกาย หลังได้รับไปแล้วจะทำให้รอบเดือนแปรปรวนได้ค่ะ อาจจะบอกยากว่า เมนส์จะมาเมื่อไหร่
และด้วยความที่ฮอร์โมนสูง ก็ทำให้มีอาการข้างเคียงอื่นๆได้ เช่น คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ
อย่างไรก็ตาม ถ้าถึงรอบเมนส์มาปกติ แล้วเมนส์ยังไม่มา ให้ลองตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์ดูค่ะ
ประจำเดือนไม่มา เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ
ก่อนอื่นต้องเช็คเรื่องการตั้งครรภ์ก่อนค่ะ
ถ้าไม่ตั้งครรภ์
โดยทั่วไป จะถือว่าเป็น ภาวะไม่มีประจำเดือน (Amenorrhea) เมื่อประจำเดือนขาดหายไป ต่อเนื่องกัน 3 เดือนค่ะ ถ้าเป็นแบบนี้จำเป็นต้องไปพบแพทย์ เพื่อซักประวัติอย่างละเอียด ตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และตรวจเลือดเพื่อดูระดับฮอร์โมน เพื่อหาสาเหตุต่อไปค่ะ
ถ้าประจำเดือนขาดไปเพียงเดือนเดียว อาจเกิดจาก ความแปรปรวนของฮอร์โมน ไข่ไม่ตกในเดือนนั้น อาจสังเกตต่อไปก่อนได้ค่ะ แต่ถ้าเดือนถัดๆไป ประจำเดือนยังไม่มาอีก ควรไปพบแพทย์
ถ้าสาเหตุของการไม่มีประจำเดือน เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ
1. มดลูก ปากมดลูก ผิดปกติ
2. รังไข่ผิดปกติ หรือ ไข่ไม่ตก
3. สาเหตุทางสมอง ทำให้ฮอร์โมนที่หลั่งจากสมอง มาควบคุมรังไข่ ผิดปกติไป เช่น การที่น้ำหนักลดลงมาก ออกกำลัยการหนักๆ หรือมีความเครียด ก็ทำให้ฮอร์โมนที่หลั่งจากสมองมาควบคุมรังไข่ผิดปกติได้ค่ะ ทำให้เมนส์ไม่มา
อย่างไรก็ตาม การจะทราบแน่ชัด ว่าเมนส์ไม่มาจากสาเหตุใดนั้น ต้องหาสาเหตุโดยแพทย์ เพราะต้องตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และ อาจต้องเจาะเลือดเพื่อดูฮอร์โมนเพิ่มเติมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. มีโอกาสท้องไหมครับ
เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีประสิทธิะสิทธิภาพสูงเหมือนกับวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานค่ะ ดังนั้น แม้จะรับประทานเร็วและครบขนาดก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% นะคะ
ในขณะที่ถ้าใช้ถุงยางอย่างถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล การที่นำยาคุมฉุกเฉินมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติเพียงเพราะไม่ต้องการใส่ถุงยาง จึงเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จและตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าที่ควรจะเป็นค่ะ
2. การใช้ยาคุมฉุกเฉินถูกต้องไหมครับ
การใช้ยาคุมฉุกเฉิน จะต้องรับประทานให้เร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ (แต่ถ้าใช้ภายใน 72 ชั่วโมงแรกจะมีประสิทธิภาพดีกว่า 72 - 120 ชั่วโมง)
และสามารถรับประทานตามวิธีใหม่ได้ โดยใช้ให้ครบขนาดในครั้งเดียว นั่นคือ ถ้าใช้ยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ดก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียว
เมื่อแฟนของผู้ถามรับประทานยาคุมฉุกเฉินชนิดที่มีแผงละ 1 เม็ดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 18 ชั่วโมง ก็ถือว่ารับประทานได้ถูกต้องและครบขนาดแล้วค่ะ
3. มีปัจจัยใดบ้างครับที่ประจำเดือนถึงไม่มา
ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ ความเครียด, การเจ็บป่วย, การใช้ยาคุม/ฮอร์โมน หรือแม้แต่ความแปรปรวนของฮอร์โมนตามวัยก็อาจส่งผลให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้
แต่สำหรับผลจากยาคุมฉุกเฉิน จากการศึกษาวิจัยพบว่าอาจทำให้ผู้ใช้มีประจำเดือนคลาดเคลื่อน (เร็วหรือช้าก็ได้) ไม่เกิน 4 วันจากปกตินะคะ ดังนั้น หากที่ผ่านมาแฟนของผู้ถามมีประจำเดือนมาตรงเวลาสม่ำเสมอ ในรอบนี้ก็ควรจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติ หรือคลาดเคลื่อนไม่มากค่ะ
ดังนั้น หากประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติ หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนนะคะ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน
และถ้าแฟนผู้ถามไม่มีประจำเดือนมาติดต่อกันตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปทั้งที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือถ้ามีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่เรื่อย ๆ ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ในวันที่ 17 กค 19 เวลา1:00น. ได้มีเพศสัมพันกับแฟน และไม่ได้มีการป้องกันและหลั่งนอก แต่ วันรุ่งขึ้นไปซื้อยาคุมฉุกเฉินแบบหนึ่งเม็ดให้แฟนกิน กินหลังจากมีเพศสัมพันประมาณ 18 ชม ครับ จนวันที่ 2 สค 19 ประจำเดือนยังไม่มาเลยครับ ประจำเดือนมาวันตั้งแต่ 26มิย - 2 กค ครับ แฟนมีอาการเจ็บหน้าอกคนับ นอนเยอะ แต่ไม่มีการปวดปัสสาวะกลางดึก 1.มีโอกาสท้องไหมครับ 2.การใช้ยาคุมฉุกเฉินถูกต้องไหมครับ 3.มีปัจจัยใดบ้างครับที่ประจำเดือนถึงไม่มา 4.ตัวผมเองค่อนข้างมีความกังวลจนส่งผลทำให้เกิดความเครียด
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)