June 06, 2019 21:35
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีอารมณ์เศร้า ร้องไห้ง่าย เก็บตัวมากขึ้น นอนไม่หลับ มีความคิดในแง่ลบมากขึ้นนั้นเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการยืนยันสาเหตุให้แน่ชัดอีกครั้งก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
โรคซึมเศร้านั้นสามารถรักษาให้หายได้ และยิ่งได้รับการรักษาเร็วเท่าไหร่ ผลการรักษาก็มักจะยิ่งดีมากขึ้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
จากอาการที่เป็นมา 4 ปี คิดว่ามีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้นะคะ
อาการของซึมเศร้า จะมีอาการดังต่อไปนี้ อย่างน้อย 7 ข้อ และเป็นต่อเนื่องทุกวันนานเกิน 2 สัปดาห์ขึ้นไป
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า ร้องไห้บ่อย
3.อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
4.มีปัญหาการนอนหลับ
5.มีปัญหาการกิน
6.ขาดสมาธิ ขี้ลืม
7.หงุดหงิดง่าย
8.น้องใจ รู้สึกไร้ค่า
9.อยากตาย /อยากทำร้ายตัวเอง
สาเหตุหลัก เกิดจากการมีความเครียดสะสม จนสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ
การรักษาจำเป็นต้องใช้ยาปรับสมดุลสารเคมีในสมองเพื่อควบคุมความคิด อารมณื พฤติกรรมได้เหมาะสม และการทำจิตบำบัดจะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจช่วยให้ปรับตัวกับปัยหาต่างๆได้ดีขึ้น
ในระหว่างรักษาควรทานยาอย่างสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง พักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกาย ฝึกปรับความคิดแง่บวก หลีกเลี่ยงสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งอาการจะค่อยๆดีขึ้นนะคะ
ดังนั้นในกรณีนี้มีอาการมานาน 4 ปี แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการอื่นๆเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากที่เล่ามาอยากจะสอบถามเพิ่มเติมเล็กน้อยครับว่าอะไรเป็นจุดเปลี่ยนทีทำให้คุณกลายจากคนร่าเริงมาเป็นคนที่คุณได้อธิบายมาในปัจจุบัน เพราะผมคิดว่าการหาต้นตอและจุดเปลี่ยนของเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้จะช่วยให้คุณเกิดความเข้าใจตนเองและสามารถรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวคุณเองได้ดีขึ้นครับ และจากอาการที่คุณเล่ามา พร้อมระยะเวลาที่คุณได้วนเวียนอยู่กับอาการเหล่านี้ ก็เป็นสัญญาณที่บ่งชี้นะครับว่าควรที่จะเข้าพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการประเมินและการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปครับ
อย่างไรก็ตาม นอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ ผมขอเพิ่มเติมว่า คุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความตึงเครียดในตัวคุณลดน้อยลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะเป็นการช่วยให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวอีด้วยครับ
สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
จริงๆคิดว่าเกิดจากช่วงเข้ามหาลัยค่ะ ตอนนั้นเลือกไปเรียนไกลบ้านมากๆ ตั้งแต่ตอนปี1ต้องปรับตัวทุกๆอย่างแล้วก็เจอเพื่อนไม่ดีแต่เราไว้ใจเพื่อนกลุ่มนี้มากๆ ตอนนั้นเลยผิดหวังจนเครียด ไม่กล้าไว้ใจใครอีกเลย ฝังใจมากๆ เครียดจนร้องไห้เกือบทุกคืนคิดจะซิ่วออกแต่ว่าทนเพราะเราเลือกแล้วเราต้องจบ เรามาเรียนเพื่อพ่อแม่ แต่ต้องทนไปกับสี่ปีที่รู้สึกโดดเดี่ยวมากๆ แล้วปกติก็กลับบ้านแค่เทอมละครั้ง เวลาไปเจอพ่อแม่ก็ไม่กล้าเล่าอะไรให้ฟัง ได้แต่ฟังปัญหาของเขา เราก็ยิ่งเครียด ช่วงนั้นแย่มากๆ แต่ก็ดีขึ้นเพราะยังเจอเพื่อนที่ดี แต่รุ้สึกเป็นช่วงเวลานานที่อยู่แบบนั้นจนนิสัยเราเปลี่ยนไปมากๆ มันทำให้ทุกวันนี้เราไม่ชอบตัวเองเลยค่ะ รู้สึกเหนื่อยมากๆ แม้จะเจอปัญหานิดๆหน่อยๆก็ไม่อยากแก้อะไรแล้ว เหมือนทำไมเราต้องเจอแบบนี้คนเดียว
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
อดีตที่ผ่านมานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ดีก็จริง แต่สิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือจะทำอย่างไรให้หลุดออกมาจากวังวนเหล่านั้นและสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ครับ
ช่วงที่ต้องปรับตัวกับการเรียน สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ สังคมใหม่ๆนั้นย่อมทำให้เกิดความเครียดได้เป็นปกติอยู่แล้วครับ และการที่ได้มาเจอกับเพื่อนที่ไม่ดีด้วยอีกก็ยิ่งต้องเพิ่มความเครียดให้มากขึ้นไปอีกเป็นธรรมดา แต่ที่หมอเป็นห่วงคืออาการต่างๆที่เกิดขึ้นในตอนนี้ดูเหมือนจะค่อนข้างมากกว่าความเครียดที่เป็นปกติไปแล้ว เนื่องจากเป็นมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานเป็นปีๆแล้ว ในตอนนี้การไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการก่อนจึงน่าจะได้ประโยชน์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
อย่างที่คุณหมอได้บอกไว้นะครับว่าการที่คุณได้ผ่านพ้นช่วงเวลาตรงนั้นมาได้ก็นับเป็นความสำเร็จของตัวเองด้วยส่วนหนึ่งที่สามารถฝ่าฟัน อุปสรรคและความรู้สึกที่ไม่ดี ที่ได้แบกไว้มากได้ ดังนั้นอย่าลืมขอบคุณในความเข้มแข็งของตัวเองในวันนั้นด้วยนะครับ
แต่อย่างไรก็ตาม ผมเข้าใจว่าการได้ต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นมานานก็ทำให้คุณเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในไปหลายๆอย่างที่ทำให้คุณไม่ชอบตัวเองที่เป็นอยู่ตอนนี้เช่นกัน ดังนั้นความรู้สึกอึดอัดตรงนี้ก็เป็นจุดที่ทำให้คุณอยากที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไปเป็นสิ่งที่คุณรู้สึกดีและอยากจะเป็นมากขึ้นใช่ไหมครับ
การเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการพูดคุย และค่อยๆเปลี่ยนแปลงทัศนคติหรือเปลี่ยนแปลงตนเอง น่าจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์คุณได้นะครับ อาจจะต้องเลือกจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาที่พูดคุยด้วยได้รู้เรื่องด้วย ซึ่งตรงนี้ก็เป็นอีกโจทย์หนึ่งที่อาจจะต้องลองเสาะหาดูครับ แนะนำว่าให้เดินทาสะดวกหน่อยก็จะดี เพราะว่าการพูดคุยกันนั่นอาจจะต้องอาศัยความต่อเนื่องซักเล็กน้อยเพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แต่ก่อนเป็นคนร่าเริงมากค่ะ เข้ากับคนได้ง่าย เดี๋ยวนี้รู้สึกตัวเองคิดมากเกินปกติ เครียดกับทุกๆเรื่องที่มากระทบจิตใจ แม้จะเล็กน้อยก็ตาม เก็บมาคิดตลอดเวลา แล้วก็ร้องไห้ง่ายมาก มีช่วงนึงที่นอนไม่ค่อยหลับ เคยนอนไม่หลับแล้วก็อาเจียนครั้งนึง จนตอนนี้รู้สึกเป็นคนเก็บตัวไม่สุงสิงกับใคร มนุษย์สัมพันธ์แย่มาก เพราะคิดว่าตัวเองเข้ากับเขาไม่ได้ ใครมาทักก่อนก็จะระแวงไม่สนิทใจ หงุดหงิดง่ายมาก ชอบคิดลบบ่อยๆ เวลาเห็นคนอื่นมีความสุขเราก็อิจฉาเขาเศร้ามากที่ทำไมเราไม่เป็นแบบนั้นบ้าง มองตัวเองไร้ค่า คิดอยากตายวันละหลายๆรอบ อาการแบบนี้หนูควรพบจิตแพทย์ไหมคะ หนูเป็นๆหายๆมา4ปีแล้ว ก็มีช่วงที่รู้สึกปกติทุกอย่างและช่วงที่ดาวน์มากๆก็จะไม่ทำอะไรเลยนอกจากอยู่ในห้องคนเดียว แล้วตอนนี้ก็กลับมาเป็นอีก เครียดมากค่ะ ทำยังไงดีคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)