August 23, 2019 17:41
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
เลือดออกกระปริบกระปรอยทางช่องคลอด เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ
อันดับแรก ต้องเช็ดดูว่า ตั้งครรภ์หรือไม่ ??
ถ้าตั้งครรภ์ จะเป็นลักษณะของเลือดออกผิดปกติ จากภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ไตรมาสแรกค่ะ เช่น แท้ง ท้องนอกมดลูก
ถ้าไม่ตั้งครรภ์ เกิดได้จาก
- ความผิดปกติที่ปากมดลูก เช่น เซลล์ผิดปกติ ติ่งเนื้อที่ปากมดลูก
- ความผิดปกติ ในโพรงมดลูก เช่น เซลล์ผิดปกติ ติ่งเนื้อในโพรงมดลูก
- ความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น ไข่ไม่ตก ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มีเลือดออกกระปริบกระปรอย
ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายในซ้ำค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
ติดเชื้อในช่องคลอดสามารถทำให้เกิดอาการต่างๆได้ เช่น มีเลือดออกกะปริบกะปรอย ตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น สีผิดไปจากเดิม เช่น สีเขียวเหลือง สีขาวข้น คันระคายเคืองช่องคลอด เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น กรณีที่เลือดออกจากช่องคลอดอาจเกิดได้จากการติดเชื้อในช่องคลอดได้ ถ้าแพทย์ให้ยามารักษา อาการอื่นๆดีขึ้น ยกเว้นยังมีเลือดไหลจากช่องคลอดอยู่ ควรกลับไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อทำการประเมินซ้ำ ส่วนสาเหตุอื่นๆที่ทำให้เลือดไหลจากช่องคลอดที่ผิดปกติได้ เช่น
-ภาวะ Dysfunctional uterine bleeding (DUB) มีเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูกซึ่งไม่ได้เกิดจากโรคหรือพยาธิสภาพใดๆ ส่วนมากสาเหตุมาจากการไม่ตกไข่
-เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ มีอาการประจำเดือนกะปริบกะปรอย ปวดประจำเดือนมากและนาน เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
-ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ หรือ Endometrial hyperplasia ค่ะ เกิดจากเซลล์ของเยื่อบุโพรงมดลูกมีการแบ่งตัวมากผิดปกติ เนื่องจากมีการกระตุ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไปในร่างกายโดยที่ไม่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมาเปลี่ยนแปลงให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้น
-ภาวะถุงน้ำหลายใบในรังไข่ หรือ Polycystic ovary syndromeค่ะ (PCOS) โดยที่อาการหลักๆของโรคนี้คือ เกิดสิวเยอะ มีขนและผมงอกมาก ประจำเดือนขาดหรือมาไม่ปรกติ มีปัญหาการเจริญพันธ์ เกิดความผิดปกติของระดับน้ำตาลในเลือดเช่น เบาหวานค่ะ
-มีรอยโรคภายใน เช่น ติ่งเนื้อ เนื้องอก มะเร็ง
-ความเครียดหรือขาดนอน
-ถ้ามีประวัติการตั้งครรภ์อาจคิดถึงการแท้ง ท้องนอกมดลูก หรือรกเกาะตัวผิดปกติได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วหลังการรักษาอาการติดเชื้อในช่องคลอด อาการเลือดออกก็ควรจะดีขึ้นใน 1 สัปดาห์ครับ
ถ้าหากผ่านไป 1 สัปดาห์แล้วอาการเลือดออกยังเป็นอยู่หมอก็แนะนำว่าควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการใหม่อีกครั้งก่อนเนื่องจากในกรณีนี้มีโอกาสที่เลือดจะออกมาจากความผิดปกติอย่างอื่น หรืออาจมีการติดเชื้อดื้อยาทำให้อาการติดเชื้อยังไม่หายได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
แฟนผมติดเฃื้อในช่องคลอด แล้วมีเลือดออกนานกว่า 1 สัปดาห์ หมอให้ยาทาทานก็ไม่หาย ควรดูแลหรือรักษายังไงครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)