ตอนนี้มีอาการปวดอวัยวะเพศค่ะ ปวดตรงบริเวณคริสตอริส แถวๆนั้น ตอนปัสสาวะไม่ปวดนะคะ แต่ว่าปวดตอนล้างค่ะ พอล้างเสร็จแล้วจะปวดหน่วงๆ จับดูก็หาบริเวณที่แน่นอนไม่เจอค่ะ อันนี้เป็นอาการของอะไรได้บ้างคะ

หากมีอากรปวดบวมแดง อักเสบ อาจเกิดได้จากการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ อาจมีอาการปัสสาวะแสบขัดด้วย หรือ หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันมาก่อนอาจเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์เช่นหนองในแท้ หนองในเทียม เริม ซิฟิลิส แผลริมอ่อนได้เป็นต้น
นอกจากนี้หากมีหนองหรืออาการปวดเป็นทากขึ้น อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียได้ครับ
สาเหตุจากการอักเสบจากการร่วมเพศโดยไม่มีการติดเชื้อก้เกิดได้แต่โดยปกติ3-7วันอาการควรดีขึ้นครับ
การใส่ชุดชั้นในที่รัดเกิดไปทำให้การไหลเวียนเบือดบริเวณอวัยวะเพศไม่สะดวกและเกิดอาการอักเสบ ปวดหน่วงได้เช่นกัน
ฉะนั้นหากมีอาการปวดมากขึ้น หรือมีอาการดังกล่าวข้างต้นควรไปพบ แพทย์เพื่อตรวจภายใน เพื่อหาสาเหตุและการติดเชื้อ เพื่อรับการรักษาที่ตรงกับสาเหตุครับ

สวัสดีครับ
อาการปวดคริตอริส เกิดจาก 1-2 สาเหตุครับ อย่างครับ ตัวอย่างเช่น
-การกระทบกระแทก เช่น การกระทบกระแทกจากการมีเพศสัมพันธืหรือ การล่วยตัวเองที่รุนแรงครับ อาจทำให้มีบาดแผลเล้กน้อยได้ มักหายเองใน 2-3 วันครับ
-การติดเชื้อ เช่น แบคทีเรีย หรือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆครัแนะนำว่า หากอาการปวดเป็นมาก ควรไปตรวจร่างกายและหาสาเหตุเพื่อให้การรักษาที่เหมาะสมครับ

การรักษาเบื้องต้น เช่น การรักษาความสะอาด การทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอลครับ หากไม่ดีคใรไปตรวจครับ

สวัสดีครับ ถ้าการที่ปวดอวัยวะเพศ แล้วมีกแผลที่อวัยวะเพศร่วมด้วย อาจจะเป็น 
การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ครับ คือ 

1.เริม อวัยวะเพศ จะเป็นกลุ่มตุ่มน้ำใส แสบๆปวดๆ คัน  การรักษาคือ ดารดูแลความสะอาด กินยาลดปวด หรืออาจจะกินยาต้านเริมก็ได้ครับ
2.ซิฟิลิส แผลจะขอบแข็ง ไม่เจ็บ ไม่มีหนอง 
การรักษา คือการฉีดยาฆ่าเชื้อ เพื่อรักษาตามระยะของโรค
3.แผลริมอ่อน จะขอบแผลไม่แข็ง จะปวดๆ แผลมีหนอง ได้ครับ การรักษาคือการกินยาฆ่าเชื้อ

แนะนำว่าควรไปพบ แพทย์ เพื่อตรวจยืนยันอาการอีกทีครับว่าเป็นอะไรแน่ครับ