September 28, 2018 16:14
ตอบโดย
อนรรฆวี ฉง (พญ.)
เริมเป็นโรคที่พบได้บ่อยในคนทุกเพศทุกวัย เกิดจากเชื้อเริม (เฮอร์ปีซิมเพลกซ์)เป็นเชื้อกลุ่มเดียวกับพวกสุกใส ซึ่งเป็นไวรัสติดต่อโดยการสัมผัส เป็นโรคที่หายได้เองแต่กลับจะกำเริบได้อีกเนื่องจากเชื้อจะไปฝังที่ปมประสาท
มักจะมีอาการแสบ ๆ คัน นำมาก่อนเล็กน้อย แล้วมีตุ่มน้ำใสขนาด 2 – 3 มิลลิเมตร ขึ้นอยู่กันเป็นกลุ่มโดยรอบจะเป็นผื่นแดง ต่อมาตุ่มน้ำใสนี้จะกลายเป็นสีเหลืองขุ่น แล้วแตกกลายเป็นสะเก็ด หายไปได้เองภายใน 1 – 2 สัปดาห์ (เร็วสุด 3 วัน)
ตำแหน่งที่พบบ่อย ได้แก่ ริมฝีปาก แก้ม จมูก หู ตา ก้น อวัยวะสืบพันธ์
นอกจากนี้ ต่อมน้ำเหลืองในบริเวณใกล้เคียงมักจะโตและเจ็บด้วย
เมื่อหายแล้ว เชื้อจะหลบไปที่ปมประสาท แล้วอาจโผล่ขึ้นมาใหม่ ทำให้โรคกำเริบได้บ่อย ๆ มักเกิดหลังมีไข้ ถูกแดดจัดอาหารไม่ย่อย ร่างกายอิดโรย อารมณ์เครียดระหว่างมีประจำเดือนหรือตั้งครรภ์
การรักษาด้วยยานั้นจะช่วยให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้นแต่ไม่สามารถกำจัดเชื้อไปได้ทั้งหมดตามที่กล่าวมาแล้ว นอกจากนี้ยังไม่สามารถที่จะลดความถี่และความรุนแรงของการกลับเป็นซ้ำของโรคได้ เป็นโรคที่ไม่จำเป็นว่าติดทางเพศสัมพันธ์นะคะ ดังนั้นอาจจะไม่ได้ติดจากแฟนได้ค่ะ แต่ต้องระวังแฟนติดเชื้อนี้จากเราค่ะ เนื่องจากเรามีอาการ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ สำหรับโรคเริมเกิดจากการสัมผัสตัวโรคโดยตรงค่ะ แต่โรคนี้เป็นแล้วจะไม่หายค่ะเพราะเชื้อจะไปซ่อนที่ปมประสาท วันดีคืนดีถ้าร่างกายอ่อนแอหรือภูมิคุ้มกันต่ำก็จะเกิดเริมได้ค่ะ ดังนั้นอาจเกิดจากการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีโรคเริมซ่อนอยู่ หรืออาจเป็นแต่เด็กๆโดยไม่ทราบมาก่อน แต่ถ้ารักษาหายแล้วไม่มีตุ่มที่มุมปากจะไม่สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ค่ะ เชื้อจะแพร่ได้เมื่อโรคกำเริบเท่านั้นค่ะ สำหรับการรักษาการติดเชื้อเริมครั้งแรกในช่องปากหรืออวัยวะเพศ แพทย์จะให้รับประทานยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม วันละ 5 ครั้ง ทุก ๆ 4 ชั่วโมง (เว้นช่วงนอนหลับตอนดึก) หรือให้รับประทานในขนาด 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ทุก ๆ 8 ชั่วโมง นาน 10-14 วัน สำหรับการติดเชื้อซ้ำในบริเวณช่องปาก (ริมฝีปากด้านนอก เหงือก หรือเพดานปาก) หรืออวัยวะเพศ แพทย์จะให้รับประทานยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) ครั้งละ 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ทุก ๆ 8 ชั่วโมง นาน 5 วัน นอกจากนี้อาจพิจารณาให้ยาทา Acyclovir cream หรือชื่อการค้าตามตลอดทั่วไปคือ Vilerm หรือ Zovirax ค่ะ และควรดูแลตัวเองโดยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียด ดูแลตัวเองไม่ให้ภูมิคุ้มกันต่ำค่ะ อย่างไรก็ตามถ้าไม่แน่ใจว่าตุ่มนั้นคือเริมหรือไม่แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ดิฉันมีตุ่มขึ้นเป็นกลุ่มที่มุมปาก ดิฉันหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตบอกว่าเป็นเริม ดิฉันสงสัยว่าดิฉันเป็นได้อย่างไปเพราะดิฉันมีแฟนคนเดียว แร่วคบกันมาปีกว่าแล้วค่ะ ก่อนน่านี่ก่อไม่เคยมีอาการนี่เรยค่ะ แร่วถ้าไม่มีรอยโรคและไม่มีอาการได้ หรือรักษาจนไม่มีตุ่มที่มุมปากแร่ว ยังแพร่กระจายเชื้อได้อยู่รึป่าว ค่ะ เพราะแฟนของดิฉันไม่มีอาการอะไรเรยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)