ฉีดยาคุมแบบคุม 3 เดือน ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม เดือนพฤศจิกายน ประจำเดือนไม่มาทั้งเดือน เดือนธันวาคม-มกราคม มีเลือดออกกะปริบกะปรอยคล้ายประจำเดือน ในทุกๆวัน ออกมาประมาณนึงจนต้องใช้ผ้าอนามัย ต้นเดือนกุมภาพันธ์ไม่มีประจำเดือน จนถึงตอนนี้ อยากทราบว่าจะท้องไหมคะ เพราะก่อนหน้านี้มีเพศสัมพัมธ์โดยลองสอดใส่ แต่ไม่ใส่ถุงอย่าง (ลองสอดเฉยๆนะคะ แล้วก็เอาออก ไม่ได้ทำอะไรต่อ)

สวัสดีค่ะ
อาการประจำเดือนไม่มา หรือ เลือดออกกระปริบกระปรอยดัวกล่าว อาจมาจากผลข้างเคียงของยาฉีดคุมกำเนิดได้ค่ะ

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่
-ประจำเดือนมักจะมาไม่ปกติ อาจมี เลือดออกเพียงเล็กน้อยเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือประจำเดือนคนไข้อาจหยุดไปเลย ค่ะหากคนไข้ใช้ยาฉีดติดต่อกันเป็น เวลานานซึ่งสามารถเป็น ป็นอาการปกติ ได้ค่ะ
-สตรีบางท่านอาจน้ำหนักข้ึน
-ปวดศีรษะ
-อารมณ์แปรปรวนในระหว่างการใช้ยาฉีด DMPA
>>การใช้ ยาฉีดติดต่อกันเป็นระยะยาวนานอาจทำให้ความแน่นหนา ของกระดูกเบาบางลง ซึ่งก็สามารถแก้ไขได้เมื่อหยุดยาฉีด

ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์
หากเป็นการฉีดครั้งแรก จะแบ่งเป็นสองกรณี คือ
>> ฉีดช่วง 2-5 วันแรกของการมีประจำเดือน——> มีผลคุมกำเนิดทันที โอกาสตั้งครรภ์น้อยกว่า 1% ค่ะ
>>ฉีดช่วงอื่นๆ —-> คนไข้ต้องคุมกำเนิดวิธีอื่นๆช่วย อย่างน้อย 7 วันค่ะ เพื่อรอยาออกฤทธิ์ หากยังไม่ถึง 7 วันหลังฉีดยา หาดคนไข้ ไม่ได้ป้องกันโดยวิธีอื่นๆ เช่น การใส่ถุงยางอนามัย จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ
เนื่องจาก ยาคุมกำเนิด อาจจะยังออกฤทธฺได้ไม่ดีพอค่ะ

แต่ถ้าคนไข้ฉีดต่อเนื่องมาอยู่แล้ว โดยไม่ขาดยา ยาคุมกำเนิดชนิดฉีดจะมีผลการคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องรอ 7 วันค่ะ
(ยาคุมกำเนิดชนิดฉีด มีประสิทธิภาพ 99% หากใช้อย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ โอกาสการตั้งครรภ์ น้อยเป็นที่สุดค่ะ)

สวัสดีครับ
การฉีดยาคุมชนิด 3 เดือนนั้นอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีการขาดประจำเดือนหรือมีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือนได้ครับ และถ้าหากฉีดยาคุมตามนัดมาอย่างสม่ำเสมอตลอด แม้จะมีการหลั่งในโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ก็จะมีเพียง 0.3% เท่านั้นครับ

แต่ถ้าหากไม่มั่นใจก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์เพื่อยืนยันดูได้ครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ