สวัสดีค่ะ อยากถามว่า ประจำเดือนพึ่งหยุดประมาณ 4 วัน แล้วมีอะไรกับแฟน พอวันถัดไป มีเลือดไหนออกมาคล้ายประจำเดือน อยากทราบว่าเกิดจากอะไรได้บ้างคะ (วันที่ปจด.หยุดวันแรก ได้กินยาคุมฉุกเฉินไปด้วยค่ะ)

สำหรับอาการของเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ นั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ
ยกตัวอย่างเช่น
- เป็นช่วงรอบเดือนปกติของผู้หญิงซึ่งอาจจะมาเร็วกว่าปกติหรือมาช้ากว่าปกติได้ครับ โดยมักจะเป็นอยู่ประมาณ 3-7 วัน ในแต่ละวันจะมีเลือดออกชุ่มผ้าอนามัย 1-2 แผ่น และจะค่อยๆลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ในช่วงแรกของการมีประจำเดือนอาจมีอาการปวดท้องน้อยได้บ้าง
- การเสียดสีจากการมีเพศสัมพันธ์ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวมีการฉีกขาด ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในครั้งแรกของการมีเพศสัมพันธ์หรือว่าเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง หากมีบาดแผลขนาดเล็กเลือดที่ออกมะจะออกนิดเดียว สีแดงสด และจะหายไปได้เอง บางคนอาจมีอาการแสบบริเวณแผลได้หากไปสัมผัสหรือถูกน้ำ แต่ถ้าบาดแผลขนาดใหญ่ เลือดมักจะออกเยอะ ควรไปพบแพทย์เช่นกันครับ
- ติ่งเนื้อบริเวณปากมดลูก เช่น หูดหงอนไก่ขนาดใหญ่
- มะเร็งปากมดลูก เวลาที่มีเพศสัมพันธ์อาจจะทำให้มีเลือดออกง่ายเช่นกัน
- มีการอักเสบติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานหรืออวัยวะสืบพันธุ์
- ผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิด หากเป็นจากยาคุมกำเนิดฉูกเฉินมักจะมีเลือดออกกระปิดกระปอย หลังจากที่รับประทานไป โดยมากมักเกิดขึ้นภายใน 7 วันและจะหายไปได้เองโดยไม่ต้องรักษาครับ
- มีความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมนเพศ
-หรือเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น การตั้งครรภ์นอกมดลูก การแท้ง ก็ทำให้มีเลือดออกจากช่องคลอดได้เช่นเดียวกัน เป็นต้นครับ

สวัสดีครับ
การมีเลือดออกผิดปกติในช่วงระหว่างรอบเดือนหรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์นั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- มีการบาดเจ็บของช่องคลอดหรือปากมดลูกจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีภาวะปากมดลูกปลิ้น ซึ่งเป็นภาวะปกติของผู้หญิงบางคน แต่ส่งผลให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย
- มีการอักเสบติดเชื้อของช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง เช่น เริม หนองใน ซิฟิลิส
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกมดลูก
- ติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ปากมดลูก
- ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน

ถ้าหากเลือดที่ออกมานี้ออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก ออกมาติดต่อกันหลายวัน หรือมีอาการเลือดออกผิดปกติในลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุครับ