July 07, 2019 19:08
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์โดยการสอดใส่ได้สวมใส่ถุงยางอนามัยอยู่ตลอดและถุงยางอนามัยไม่มีการแตกรั่วก็จะมีโอกาสติดเชื้อ HIV มาได้น้อยมากครับ แต่สิ่งที่ทำให้ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ในกรณีนี้เพิ่มขึ้นคือการทำออรัลเซ็กซ์ให้อีกฝ่าย ซึ่งก็จะทำให้มีโอกาสติดเชื้อ HIV ได้ประมาณ 0.04% ครับ
อย่างไรก็ตามโรค HIV นั้นเป็นโรคที่ไม่มีอาการที่จำเพาะจะวินิจฉัยได้โดยการตรวจเลือดเพื่อยืนยันการติดเชื้อเท่านั้น ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดหาการติกเชื้อในเบื้องต้นก่อน และถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการติดเชื้อก็ควรไปตรวจเลือดซ้ำอีกครั้งที่เวลา 3 เดือนหลังรับความเสี่ยงเพื่อให้ได้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 99.9% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เมื่อช่วง 1 เดือนที่แล้ว ผมได้ไปมีเพศสัมพันธ์กับสาวขายบริการมาครับ ตอนไปมีเพศสัมพันธ์ผมมีหวัดน้ำมูก นิดหน่อย ผมมีเพศสัมพันธ์แบบป้องกันโดยการสวมถุงยางอนามัย แต่ผมทำออรัลให้ฝ่ายหญิง มีการจูบปากแลกลิ้น และดูดหัวนม 3 สัปดาห์ต่อมา ผมมีอาการ ร้อนๆหนาวๆ มีไข้ ไอและมีเสมหะ และมีผื่นแดงตามหน้า แขน ตัว ไปหาหมอ หมอบอกว่าเป็นผื่นเหงื่อปกติ หมอให้ยามาทาน ตอนนี้หายดีแล้วครับ แต่ผมยังคงมีความวิตกกังวลและค่อนข้างเครียดว่า ในอนาคตผมมีโอกาสติดเชื้อเอดส์ไหมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)