หมอคะ พอดีหนูมีอะไรกับแฟน พอเสร็จกิจพบว่าถุงมันรั่ว แต่แตกตอนเอาออกพอดี จากนั้นก็รีบไปซื้อยาคุมฉุกเฉน postinor ภายในไม่ถึง10นาที เภสัชแนะกิน2เม็ด หนูก็กินตามที่เค้าบอก จะท้องมั้ยคะ

สวัสดีครับ

เบื้องต้น ไม่มีการคุมกำเนิดใดที่ให้ผลร้อยเปอร์เซนต์ครับ การรับประทานยาคุมฉุกเฉิน จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มาก แต่โอกาสการตั้งครรภ์ยังมีสูงกว่าการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง โดยวิธีอื่นๆครับ

การคุมกำเนิดโดยใช้วิธีการคุมกำเนิดฉุกเฉินแนะนำให้ใช้เฉพาะผิดพลาดจริงๆเท่านั้น เช่น ถุงยางอนามัยขาด เป็นต้น ไม่แนะนำให้ใช่เป็นวิธีการคุมกำเนิดเพียงอย่างเดียวครับ

>> การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้อวกัน หากรับประทานภายใน 24 ชม แรกหลังมีเพศสัมพันธ์ จะเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% -90% (มีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 10-15%)
ดังในกรณีของคนไข้ครับ

>> ถ้ากินภายใน 72 ชม ประสิทธิภาพได้ประมาณ 75% ครับ และช้าสุดที่ 120 ชม ประสิทธิภาพ ของการป้องกันการตั้งครรภ์ยังพอมีอยู่ แต่ลดลงไปมากครับ

>>ถ้าคนไข้ต้องการประสิทธิภาพการคุมกำเนิดมากขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนไปคุมกำเนิดโดยใช้ ห่วงอนามัยชนิดเคลือบสารทองแดงก็ได้ครับ ประสิทธิภาพจะสูงกว่ายาคุมกำเนิดในช่วง 72-120 ชมครับ (สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 0-120 ชมได้ดี และมีประสิทธิภาพประมาณ 99%) ครับ

อย่างไรก็ตาม หลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน อาจมีผลข้างเคียงครับ
ผลข้างเคียงหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ได้แก่อาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว และหลังจากรับประทานในช่วงสัปดาห์แรก อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ แต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่เป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินครับ ประจำเดือนของคนไข้ ควรมาตรวรอบตามปกติค่ะ หากพบว่าประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติเกิน 1-3 สัปดาห์ (หรือ 14 วันหลังจากมีเพศสัมพันธ์) ให้ทดสอบการตั้งครรภ์ หรือพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องครับ

ยาคุมฉุกเฉิน ถ้ากิน ภายใน 72 ชั่วโมงครับ จะสามารถป้องกันกำเนิดได้ ประมาณ 80%ครับ

และเริ่มตรวจการตั้งครรภ์ได้หลังจากการที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว อย่างน้อย 14 วัน โดยใช้ปัสสาวะตอนเช้าในการตรวจครับ

สวัสดีครับ
การที่ถุงยางอนามัยฉีกขาดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ครับ แต่ถ้าหากรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปในทันทีแล้วโอกาสตั้งครรภ์ก็จะชดลงไปได้ประมาณ 85% ครับ

หลังจากนี้หมอแนะนำให้รอสังเกตประจำเดือนของรอบเดือนนี้ดูก่อน ถ้าประจำเดือนมีการขาดหายไปก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินประมาณ85%ครับ ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ
ฉะนั้นภายหลังมีความเสี่ยงมากกว่า14วัน สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้ทางปัสสาวะครับ

สวัสดีค่ะ กรณีถุงยางอนามัยรั่วให้รีบทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นวิธีที่ถูกต้องแล้วค่ะ ปกติแล้วยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% หรือมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15-25% แต่ถ้าทานเร็วภายใน 24 ชั่วโมงยาคุมกำเนิดจะมีประสิทธิภาพในการคุมสูงถึง 85% หรือมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 15% ค่ะ ซึ่งประสิทธิภาพในการคุมถือว่าไม่ได้สูงนักเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ดังนั้นหมอแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์มาแล้วอย่างน้อย 14 วัน โดยตรวจในตอนเช้าหรือปัสสาวะแรกของวันจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุดค่ะ และถ้าต้องการมีเพศสัมพันธ์ครั้งถัดไปแนะนำคุมด้วยวิธีอื่นๆ เช่น ถุงยางอนามัย ยาคุมแบบรายเดือน แบบฉีด แบบฝัง เป็นต้นค่ะ ยาคุมฉุกเฉินมีไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ถูกข่มขืน ถุงยางอนามัยแตก หรือลืมทานยาคุมแบบรายเดือน ไม่ควรใช้คุมกำเนิดเป็นประจำค่ะ

ไม่มีการคุมกำเนิดอะไร 100% ครับ ทานยาคุมฉุกเฉินลดโอกาสการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 85% ครับ

โดยปกติแล้วไม่มียาคุมแบบสอดนะครับ แต่อาจมีการคุมกำเนิดในรูปแบบของห่วงอนามัยหรือวงแหวนคุมกำเนิด หมอไม่แน่ใจว่าคุณหมายถึงการคุมกำเนิดประเภทใดครับ

ในปัจจุบันการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงทีีสุดคือการฝังยาคุมครับ หลังการฝังยาคุมจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.05% เท่านั้น

แต่ถ้าหากต้องการฝังยาคุมหมอก็แนะนำให้รอให้ประจำเดือนมาก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีใครการตั้งครรภ์และก็ให้เริ่มฝังยาภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือนครับ

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยิ่งกินเร็วเท่าไหร่ หลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งดีค่ะ โดยตามหลักการ ให้กินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันยืดหยุ่นให้ถึง 100 ชั่วโมงแล้วค่ะ

อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉิน ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ดีไม่เท่า การคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ เช่น การกินยาคุมปกติค่ะ (ยาคุมปกติ ถ้ากินถูกวิธี ประสิทธิภาพคุมกำเนิด มากกว่า 90 % แต่คุมฉุกเฉิน อาจจะแค่ประมาณ 80% - 85%

เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ แนะนำใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นค่ะ ใช้ยาคุมฉุกเฉิน เมื่อจำเป็นเท่านั้น

ยาคุมฉุกเฉิน คือ ฮอร์โมนเพศหญิงขนาดสูงค่ะ สูงกว่าระดับธรรมชาติในร่างกาย หลังได้รับไปแล้วจะทำให้รอบเดือนแปรปรวนได้ค่ะ อาจจะบอกยากว่า เมนส์จะมาเมื่อไหร่

และด้วยความที่ฮอร์โมนสูง ก็ทำให้มีอาการข้างเคียงอื่นๆได้ เช่น คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ

อย่างไรก็ตาม ถ้าถึงรอบเมนส์มาปกติ แล้วเมนส์ยังไม่มา ให้ลองตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์ดูค่ะ

วิธีและประสิทธิภาพการคุมกำเนิด เช่น
- ยาฝังคุมกำเนิด โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 0.05
- ห่วงคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 0.1
- การทำหมันถาวรชาย-หญิง โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 0.1-0.5
- ห่วงคุมกำเนิดชนิดทองแดง โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 0.5
- ยาฉีดคุมกำเนิด 0.3-3
- ยาเม็ดคุมกำเนิด โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 0.3-8
- แผ่นฮอร์โมนปิดผิวหนัง โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 0.3-8
- ถุงยางอนามัย โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 2-15 เป็นวิธีเดียวที่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เมื่อใช้อย่างถูกวิธี
- การหลั่งภายนอก โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 4-27
- การนับระยะปลอดภัย โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 9-25

ต้องให้แพทย์ใส่ห่วงให้ที่โรงพยาบาลครับ อาจมีอาการปวดหน่วงท้องน้อยได้

การคุมกำเนิดโดยการใส่ห่วงอนามัยนั้นเป็นวิธีหยึ่งที่สามารถใช้ในการคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินและใช้ในการคุมกำเนิดในระยะยาวได้ด้วย หลังใส่ห่วงคุมกำเนิดแล้วจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.6% ครับ

ในกรณีที่ต้องการใส่ห่วงคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินหมอก็แนะนำให้ไปพบสูติแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ

การรับประทานยาคุมแบบปกตินั้นจะไม่มีผลป้องกันการตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วครับ

ในตอนนี้หมอแนะนำว่าควรรอสังเกตประจำเดือนต่อไปก่อน และเมื่อประจำเดือนมาแล้วก็ให้เริ่มรับประทานยาคุมได้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนครับ

ถ้าหากมีการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมก็มีทางออกที่สามารถทำได้อยู่หลายทางครับ เช่น
- ปรึกษากับคนในครอบครัวเพื่อหาทางออกร่วมกัน
- ยกบุตรให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้อื่น
- ฝากบุตรไว้ในสถานสงเคราะห์และไปรับกลับมาเมื่อมีความพร้อม

หรือในกรณีที่มีความประสงค์ที่จะยุติการตั้งครรภ์หมอก็แนะนำให้ไปปรึกษาสูติแพทย์ในโรงพยาบาลเพื่อประเมินความเหมาะสมทั้งในแง่ของทางการแพทย์และทางกฎหมายก่อน เพื่อให้การยุติการตั้งครรภ์เป็นไปด้วยความปลอดภัยและถูกต้องมากที่สุดครับ

ทั้งนี้หมอไม่แนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง เนื่องจากอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น มีการตกเลือด ติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ครับ

นอกจากนี้ก็ยังสามารถโทรไปขอคำปรึกษาเพิ่มเติมที่สายด่วนสำหรับผู้ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมเบอร์ 1663 หรือ เข้าไปขอคำปรึกษาที่ https://www.lovecarestation.com ได้อีก 1 ช่องทางครับ

แตกต่างกันครับ การที่สำเร็จความใคร่ภายใน ถ้าถุงยางรั่ว โอกาสตั้งครรภ์ ต้องมากกว่า การที่นำอสุจิมาหลั่งข้างนอกครับ

ถ้าหากต้องการทราบวันตกไข่หมอต่องขอทราบวันที่มีประจำเดือนย้อนหลังกลับไป 4-5 เดือนก่อนครับ

สำหรับวันตกไข่ จะต้องขึ้นอยู่กับระยะ เวลาของรอบเดือน ในแต่ละรอบใช้เวลานานแค่ไหนถึงประจำเดือนจะมา เวลาประจำเดือนมา นานกี่วัน แล้วประจำเดือนมาสม่ำเสมอหรือไม่ ถ้ามาไม่สม่ำเสมอ ก็อาจจะไม่สามาาถบอกได้ว่าจะตกไข่เมื่อไรครับ

การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งในมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 80% ส่วนการหลั่งนอกจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ