October 15, 2019 17:05
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าใช้ยาคุมถูกต้องและไม่เคยลืมรับประทานเลย ก็มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก เนื่องจากมีผลป้องกันจากยาคุมที่ใช้อยู่นั่นเองนะคะ
โดยการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% ค่ะ หรือความเสี่ยงอาจค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ถ้ารับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ
แต่แม้จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องทุกวัน แต่ช่วงที่มีประจำเดือน ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนนะคะ เพราะเสี่ยงที่จะติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกรานได้ง่าย
สำหรับเลือดสีดำออกน้ำตาลที่กล่าวมา ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดค่ะ แต่ถ้าผู้ถามรับประทานยาคุมไม่ตรงเวลา ก็อาจเป็นผลข้างเคียงที่เกิดจากยาคุมเองก็ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีอาการผิดปกติอื่น เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง อาจรอดูไปก่อนนะคะ
แต่ถ้ามีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย หรือมีเลือดออกมามากและนานผิดปกติ ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ
และถ้าผู้ถามกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะถ้าใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมแล้วไม่มีประจำเดือนมาในช่วงที่รับประทาน "เม็ดแป้ง" ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ค่ะ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันที่ครบกำหนดต่อยาคุมแผงใหม่ และถ้าผลตรวจออกมาเป็นไม่ตั้งครรภ์ ก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนดเพื่อให้มีผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่องได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันทานยาคุมแบบ 28 เม็ดมาเกือบปีแล้วค่ะ และประจำเดือนมาปกติเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งล่าสุดมีเพศสัมพันธ์ตอนประจำมาวันที่สอง จากนั้นประจำเดือนก็ยังมีตามปกติประมาณ 4-5 วันก็หมด ไม่เกิน 3 วัน ก็มีสีดำออกน้ำตาลติดกางเกงใน อยากรู้ว่ามันคืออะไรคะ ช่วงนั้นเป็นไข้ทับฤดูด้วยค่ะ กลัวว่าจะท้อง ทั้งๆที่ทานยาคุม ไม่เคยลืมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)