September 02, 2019 12:44
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ สำหรับการเริ่มรับประทานยาคุมแนะนำให้เริ่มในวันที่1-5ของการมีประเดือนครับ แต่สำหรับผู้ที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือเปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิด สามารถเริ่มทานได้เลย แต่ต้องแน่ใจว่าไม่ตั้งครรภ์ หากมีภาวะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์
สำหรับการกินยาคุมฉุกเฉิน
- การกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้องคือ กินเม็ดแรกให้เร็วที่สุด หลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันทันที โดยไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมง และจะต้องกินยาเม็ดที่สองหลังจากกินเม็ดแรกไม่เกิน 12 ชั่วโมง
- การกินยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ดังกล่าวตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่หากเริ่มยาภายใน 24ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเป็น 85% ดังนั้นจึงควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุด
- หากมีการอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังกินยาแต่ละเม็ด ต้องกินยาใหม่ และไม่แนะนำให้กินยาเกิน 4 เม็ด หรือ 2 กล่อง ต่อเดือนครับ
แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเองหลังมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 10-14 วัน และสามารถตรวจซ้ำหลังจากนั้น 7วันหรือพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ใจครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แล้วมีอะไรไปแล้วแบบไม่ป้องกันแล้วกินยาคุมฉุกเฉินแล้วจะสามรถกินยาคุมได้ตอนไหนค่ะ เดิมทีเป็นประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมอ พอดีหนูถอดเข็มยาคุมกำเนิดแล้วได้นานแล้วค่ะแล้วก็ฉีดยาคุมแบบเดือนเดียวต่อแต่ประจำเดือนไม่มาเลย แต่มาแบบจี้ดๆก็หายค่ะ เลยไม่แน่ใจว่าแบบนี้เขาเรียกประจำเดือนมาไหมว่าจะกินยาคุมแต่ก็ยังไม่กล้ากินค่ะเพราะไม่แน่ใจ หลังจากนั้นก็ลองไม่คุมค่ะปล่อยไห้ประจำเดือนมาแต่ก้อมาแบบจี้ดเดียวก็หายเหมือนเดิมค่ะ แล้วหลงไปมีอะไรกับแฟนเมื่อเสาร์ที่ผ่านมาค่ะ โดยไม่ได้ป้องกันทำไงดีค่ะกินยาคุมฉุกเฉินทันไหม แล้วทำไงถึงจะกินยาคุมได้ปกติค่ะ อยากกินยาคุมแล้วแต่ไม่แน่ใจกับประจำเดือนค่ะ กังวลมากก
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)