August 04, 2019 20:12
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ ฉะนั้นภายหลังมีความเสี่ยงไม่เกิน120ชั่วโมง ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ครับ โดยยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ประมาณ85% จึงยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ฉะนั้นภายหลังมีความเสี่ยงประมาณ14วัน สามารถตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ สามารถตั้งครรภ์ได้ครับ เบื้องต้นแนะนำว่าควรซื้อยาคุมฉุกเฉิน มากิน ภายใน 72 ชั่วโมงครับ จะสามารถป้องกันกำเนิดได้ ประมาณ 80%ครับ
และเริ่มตรวจการตั้งครรภ์ได้หลังจากการที่มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว อย่างน้อย 14 วัน โดยใช้ปัสสาวะตอนเช้าในการตรวจครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
ในกรณีที่ถุงยางแตกแนะนำให้ทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 72 ชั่วโมงครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
การตั้งครรภ์ ในผู้หญิงจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมีการตกไข่ในผู้หญิง และมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีการตกไข่เท่านั้น (ส่วนใหญ่ในช่วงประมาณ14วันนับจากประจำเดือนวันแรกครับ) ถ้ามีการสอดใส่ หรือไม่มีการป้องกัน ก็จะมีโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ครับ
ถ้าถุงยางแตกจะมีโอกาสตั้งครรภ์ครับ แนะนำให้ทานยาคุมฉุกเฉินให้เร็วที่สุด เพื่อลดโอกาสการตั้งครรภ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ยังมีโอกาสค่ะ ดังนั้นควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยิ่งกินเร็วเท่าไหร่ หลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งดีค่ะ โดยตามหลักการ ให้กินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันยืดหยุ่นให้ถึง 100 ชั่วโมงแล้วค่ะ
อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉิน ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ดีไม่เท่า การคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ เช่น การกินยาคุมปกติค่ะ (ยาคุมปกติ ถ้ากินถูกวิธี ประสิทธิภาพคุมกำเนิด มากกว่า 90 % แต่คุมฉุกเฉิน อาจจะแค่ประมาณ 80% - 85%
เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ แนะนำใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นค่ะ ใช้ยาคุมฉุกเฉิน เมื่อจำเป็นเท่านั้น
ยาคุมฉุกเฉิน คือ ฮอร์โมนเพศหญิงขนาดสูงค่ะ สูงกว่าระดับธรรมชาติในร่างกาย หลังได้รับไปแล้วจะทำให้รอบเดือนแปรปรวนได้ค่ะ อาจจะบอกยากว่า เมนส์จะมาเมื่อไหร่
และด้วยความที่ฮอร์โมนสูง ก็ทำให้มีอาการข้างเคียงอื่นๆได้ เช่น คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ
อย่างไรก็ตาม ถ้าถึงรอบเมนส์มาปกติ แล้วเมนส์ยังไม่มา ให้ลองตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์ดูค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ ถ้าถุงยางอนามัยแตกมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงค่ะ ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ในวันปลอดภัยหรือเพิ่งหมดประจำเดือนมาก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ กรณีนี้ถ้าผ่านมายังไม่ถึง 120 ชั่วโมงให้รีบทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินให้เร็วที่สุดค่ะ โดยถ้ายิ่งทานเร็วประสิทธิภาพก็มากตามไปด้วย โดยปกติแล้วยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85%ค่ะ หรือกล่าวคือ มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15-25% ค่ะ และแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์มาแล้วอย่างน้อย 14 วัน โดยตรวจในตอนเช้าหรือปัสสาวะแรกของวันจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุดค่ะ
และถ้าต้องการมีเพศสัมพันธ์ครั้งถัดไปและถ้าต้องการคุมด้วยถุงยางอนามัยหมอแนะนำให้เช็ควันหมดอายุของถุงยางอนามัยและใส่ให้ถูกด้านเวลาใช้ ใส่ขนาดที่พอดี ถ้ารัดไปถุงยางจะขาดได้ ส่วนถ้าหลวมไปจะเคลื่อนหลุดได้ รูดให้ชิดโคนมากที่สุดค่ะเพื่อป้องกันไม่ให้ถุงยางอนามัยเลื่อนหลุดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ และควรใช้สารหล่อลื่นสำหรับการมีเพศสัมพันธ์สัมพันธ์เท่านั้น เช่น KY jelly หรือสารหล่อลื่นที่มีส่วนผสมเป็นน้ำหรือซิลิโคนเท่านั้น สารอื่นเช่น วาสลีน เบบี้ออลย์ น้ำมันมะพร้าว โลชั่นทาผิวทั่ว หรือสารหล่อลื่นที่มีส่วนผสมของน้ำมันห้ามใช้เพราะจะทำให้ถุงยางขาดง่ายค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากถุงยางอนามัยมีการแตกรั่วหมอก็แนะนำว่าควรหายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดก่อนครับ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นควรรับประทานให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ภายในเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์เพื่อที่จะช่วยลดโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ลง 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
โดยทั่วไปแล้วในยาคุมฉุกเฉิน 1 แผงจะมียา 2 เม็ด สามารถรับประทานได้ 2 วิธี คือ
1. รับประทานพร้อมกันทีเดียว 2 เม็ด
2. รับประทานทีละ 1 เม็ดห่างกัน 12 ชั่วโมง
ซึ่งจะเลือกรับประทานยาด้วยวิธีใดก็ได้เพราะประสิทธิภาพของยาจะเท่ากันครับ แต่การรับประทานในรูปแบบ 2 เม็ดพร้อมกันอาจมีข้อดีเหนือกว่าตรงที่ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมรับประทานยาเม็ดที่ 2
แต่ก็อาจมียาคุมฉุกเฉินบางยี่ห้อที่มียา 1 เม็ดในแผงเดียว ก็สามารถรับประทานยาเม็ดนั้นเม็ดเดียวได้เลยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกตอนบ่ายนิดๆ แต่ใส่ถุงยางอนามัย ครั้งที่2ตอน6โมงเย็น แต่ถุงแตก แต่ไม่รุ้ว่าแตกตอนไหน แฟนเป็นประจำเดือนวันที่1-3 มีเพศสัมพันธ์วันที่4 จะท้องมั้ย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)