สวัสดีค่ะหมอ ก่อนอื่นเลยต้องเล่าว่า มีซัมติงกับแฟนวันที่30พย. แล่วกินยาคุมฉุกเฉินไป (กินตรงเวลาตามที่แพทย์ระบุ) แล้วผ่านมาประมาณ1สัปดาห์ มีเลือดออกมา3วัน ออกแบบกระปริบกระปรอย ค่อนข้างที่จะเป็นสีน้ำตาล ที่แรกคิดว่าประจำเดือน เลยเริ่มกินยาคุมแบบ28เม็ดไป(วันที่7ธค.)จนตอนนี้กินไปได้13เม็ดแล้ว เมื่อวันที่19-20ธค.เริ่มมีอาการปวดท้องน้อย ปวดหลัง แบบจะเป็นประจำเดือน แต่ปวดมาๆหายๆ ปวดแบบยังทนได้ ต่างจากตอนที่จะเป็นประจำเดือน ตอนเป็นจะปวดมาก แบบบิดๆเลยค่ะ ปกติประจำเดือนจะมาราวๆวีนที่20-21ของทุกเดือน อยากสอบถามว่า ผิดไหมคะ ที่กินยาคุมแบบ28เม็ดเข้าไปในตอนนั้น เพราะเลือดที่ออกมาอาจจะเป็นผลจากยาคุมฉุกเฉิน แล้วก็อยากสอบถามว่า จะมีโอกาสท้องสูงไหมคะ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันและใช้การรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปในภายหลังนั้นจะยังคงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15-25% ครับ และการที่ยังไม่ได้มีประจำเดือนมาก็จะทำให้ยังไม่สามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการตั้งครรภ์

ตามหลักการแล้วการรับประทานยาคุมแบบรายเดือนนั้นควรเริ่มรับประทานเมื่อมั่นใจว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์อยู่ ในกรณีที่เลือดที่ออกมายังไม่ใช่ประจำเดือนแต่เป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินจึงอาจจะยังไม่เหมาะสมที่จะรับประทานยาคุมครับ แต่เนื่องจากได้รับประทานจาคุมติดต่อกันมาหลายวันแล้ว หมอก็แนะนำให้รับประทานยาคุมต่อไปให้หมดแผงก่อนเพราะการหยุดรับประทานยาคุมอย่างกระทันหันนั้นอาจทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนและทำให้มีประจำเดือนมาผิดปกติไปได้

ในช่วงที่รับประทานยาคุมชนิด 28 เม็ดประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทานยาเม็ดแป้ง 4-7 เม็ดสุดท้ายของแผงขึ้นอยู่กับยี่ห้อของยาคุม ถ้าหากประจำเดือนมาตามนี้ก็จะสามารถมั่นใจได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ แต่ถ้าหากประจำเดือนไม่มาหมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูโดยใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าของวันที่จะเริ่มรับประทานยาคุมแผงใหม่ก่อน ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ก็สามารถรับประทานยาคุมแผงใหม่ต่อไปได้ครับ

1. ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงค่ะ แม้จะใช้เร็วและครบขนาด ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% นะคะ ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่สูงกว่าการคุมกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐานมากค่ะ จึงไม่ควรนำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกตินะคะ

หากไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงเวลา หรือคลาดเคลื่อนไม่มาก ส่วนเลือดกะปริบกะปรอยที่อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทานเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา อาจพบ หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร

ดังนั้น เลือดกะปริบกะปรอยที่ออกมาภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งพบห่างจากช่วงเวลาที่คาดว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติของผู้ถาม ถ้าไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ ร่วมด้วย ก็น่าจะเป็นเพียงแค่ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินนั่นเองค่ะ จึงยังสรุปไม่ได้ว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่

2. การใช้ยาคุมรายเดือนไม่สามารถลดความเสี่ยงที่ผู้ถามมีให้น้อยลงได้ และถ้ามีการตั้งครรภ์ไปแล้ว ต่อให้รับประทานยาคุมรายเดือนต่อไปแต่การตั้งครรภ์ก็จะยังคงอยู่เหมือนเดิม

แต่เมื่อผู้ถามใช้มานานแล้ว หากหยุดใช้กลางแผงอาจยิ่งทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนและประจำเดือนคลาดเคลื่อนมากยิ่งขึ้น จึงแนะนำให้ใช้ต่อไปตามปกติได้นะคะ (หากยังไม่มีเพศสัมพันธ์อีกเลย และต้องการความมั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ สามารถตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอนห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้ โดยไม่จำเป็นจะต้องหยุดใช้ยาคุมรายเดือนค่ะ)

และในกรณีที่ไม่มีการตั้งครรภ์ หากยาคุมแบบ 28 เม็ดที่ผู้ถามใช้เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ก็จะต้องรับประทานเม็ดยาฮอร์โมนติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้นะคะ

การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลป้องกันจากยาคุมรายเดือนจะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% หรือค่อนไปทางต่ำถ้ารับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอค่ะ

3. การใช้ยาคุมรายเดือนของผู้ถามจะปรับรอบประจำเดือนใหม่ค่ะ โดยถ้ายาคุมแบบ 28 เม็ดที่ใช้นั้นเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนจะมาในช่วงที่รับประทานเม็ดแป้งของแผง (ซึ่งอาจมี 7 เม็ด หรือ 4 เม็ด ขึ้นกับยี่ห้อที่ใช้) โดยมักจะมาหลังใช้เม็ดยาฮอร์โมนหมดไปแล้ว 2 - 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อย

เมื่อประจำเดือนมาก็ถือว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ ใช้ครบ 28 เม็ดแล้วก็ให้ต่อแผงใหม่ในวันถัดมาได้เลย

แต่ถ้าใช้ไปจนหมดทั้ง 28 เม็ดแล้วไม่มีประจำเดือนมา ให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันที่ครบกำหนดต่อยาคุมแผงใหม่ ซึ่งถ้าผลตรวจออกมาเป็นไม่ตั้งครรภ์ ก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนดเพื่อให้มีผลคุมกำเนิดที่ต่อเนื่องได้ค่ะ

4. ผลข้างเคียงจากยาคุมอาจทำให้มีอาการปวดท้องหรือไม่สบายท้องได้ แต่มักจะไม่รุนแรงและหายเองได้ค่ะ

อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ถามมีอาการปวดอย่างรุนแรง หรือเป็นอยู่นานแล้วไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ