December 22, 2019 00:36
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ในช่วงที่ฉีดยาคุมอยู่นั้นจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-6% เท่านั้น และในช่วงที่รับประทานยาคุมแบบรายเดืออยู่ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-9% เท่านั้นครับ ในกรณีนี้จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อย
ทั้งนี้ก็อาจต้องประเมินด้วยว่าที่ผ่านมาได้ตรวจการตั้วครรภ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมหรือไม่ ถ้าหากได้ตรวจการตั้งครรภ์ห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจแล้วก็จะมั่นใจได้ 97-99% ว่าผลตรวจถูกต้องครับ
อย่างไรก็ตามการถึงจะไม่มีการตั้งครรภ์การที่ประจำเดือนไม่มาในช่วงที่ฉีดยาคุมชนิด 1 เดือนและรับประทานยาคุมก็อาจมีความผิดปกติบางอย่างซ่อนอยู่ได้ครับ เช่น ความผิดปกติของฮอร์โมน รังไข่ หรือมดลูก
หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรไปพบแพทย์นรีเวชในโรงพยาบาลเพื่อตรวจประเมินอาการดูให้แน่ใจก่อนว่ามีความผิดปกติหรือไม่ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีค่ะ มีคำถามอยากทราบคำตอบมากๆ พอดีไปฉีดยาคุมกำเนิดแบบ 1 เดือน/เข็ม มาเป็นระยะเวลา1ปี แล้ว ไม่เป็นประจำเดือนเลย ก็ได้สอบถามกับทางคลินิคที่ไปรับการฉีดมา ทางคุณพยาบาลที่ฉีดให้ก็แจ้งว่าไม่เป็นไร มันน่าจะเกี่ยวกับฮอร์โมนต่างๆ จนกระทั้งเดือนตุลาคมที่ผ่านมาทางได้หยุดฉีดยาคุมกำเนิดดังกล่าว และเปลี่ยนมาทานยาคุมกำเนิดแทนในเดือนพฤศจิกายน จนถึงปัจจุบันก็ครบ1แผง แต่ประจำเดือนก็ยังไม่มา ซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจแล้ว ก็ไม่ได้ท้อง อยากทราบว่ามันน่าจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคอะไรหรือไม่อย่างไรคะ หรือว่าน่าจะเป็นที่ฮอร์โมน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)