สวัสดีค่ะ พอดีทานยาคุมฉุกเฉินไปเมื่อวันที่ 1/07 หลังมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 3-4 ชั่วโมง (ครึ่งแรกป้องกันโดยการสวมถุงยางอนามัย ครึ่งหลังถอดถุงและหลั่งนอกค่ะ) หลังจากทานยาคุมมีอาการตกขาวสีครีม กับเมือกใส (วันที่4/07) ระหว่างนั้นก็มีอาการปวดท้องน้อยเป็นระยะค่ะ วันที่ 7/07 มีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดไม่เยอะค่ะ สีค่อนข้างคล้ำ วันที่ 8/07 ตอนประมาณ 9.00 น. มีเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากช่องคลอดเหมือนประจำเดือนมาวันแรก และไหลตลอดทั้งวัน ปริมาณเท่ากับประจำเดือนมาปกติ ประจำเดือนมาวันที่ 22/06 และหมดวันที่ 27/06 อยากทราบว่าอาการดังกล่าวเป็นผลข้างเคียงจากยารึเปล่าคะ แล้วมีโอกาสตั้งครรภ์มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ

1. ในช่วงประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา ประจำเดือนมาสม่ำเสมอตรงเวลาหรือไม่คะ

2. โดยปกติ ประจำเดือนมาทุก ๆ กี่วันคะ (หมายถึงระยะห่างจากวันแรกที่มีประจำเดือนครั้งหนึ่งไปหาวันแรกของการมีประจำเดือนอีกครั้งหนึ่งนะคะ ไม่ได้หมายถึงจำนวนวันที่มีเลือดออก)

3. มีการรับประทานยา, สมุนไพร หรืออาหารเสริมใด ๆ อยู่หรือไม่คะ

อาการตามที่เล่ามานั้นน่าจะเป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินครับ
ยาคุมฉุกเฉินนั้นมีผลข้างเคียงทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม มีตกขาวมากขึ้น เลือดออกกระปริดกระปรอย เลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน รวมถึงประจำเดือนเลื่อนมาเร็วหรือช้ากว่ากำหนดได้ครับ(โดยมากจะเลื่อนจากกำหนดเดิมไม่เกิน 4-5 วัน)

ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ของยาคุมฉุกเฉินนั้น ถ้ารับประทานได้ภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์จะป้องกันได้ 75-85% ครับ

ในตอนนี้แนะนำให้สังเกตประจำเดือนต่อไปก่อนครับ ถ้าถึงเวลาที่ประจำเดือนควรจะมาแล้วยังไม่มา ก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูตอนนั้นอีกครั้งครับ

อาการที่เกิดขึ้นนั้นเกิดได้จากการรับประทานยาคุมฉุกเฉินซึ่งเป็นผลข้างเคียงครับ ปกติหลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีเลือดออกได้ในช่วงหลังรับประทานประมาณ1อาทิตย์ครับ อย่างไรก้ตามประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน อยู่ที่ประมาณ80% ครับ หมอแนะนำให้สังเกต ดูรอบเดือน ถัดไปว่ามาตามปกติหรือไม่หาก มาช้ากว่าปกติ
เกิน1สัปดาห์ ให้ตรวจการตั้งครรภ์โดยการตรวจปัสสาวะครับ ปกติการตรวจปัสสาวะเมื่อสงสัยว่ามีการตั้งครรภ์สามารถกระทำได้ประมาณ2อาทิตย์หลังมีเพศสัมพันธ์ หรือมีการปฏิสนธิของไข่และอสุจิครับ

ในช่วงที่เริ่มมีประจำเดือนใหม่ๆประมาณ 1-2 ปี ประจำเดือนอาจจะมาไม่สม่ำเสมอได้ครับเนื่องจากการตกไข่จะยังไม่สม่ำเสมอในช่วงแรก

ถ้าหากปัจจุบันมีประจำเดือนมาสม่ำเสมอทุกๆ 30 วันแล้ว ก็ให้นับจากวันที่มีประจำเดือนครั้งสุดท้ายไปอีก 30 วันได้เลยครับ ถ้าหากเลยกำหนดดังกล่าวไปสัก 4-5 วัน หรือประมาณ 1 สัปดาห์แล้วประจำเดือนยังไม่มา ก็ให้ตรวจการตั้งครรภ์ดูตอนนั้นครับว่ามีการผิดพลาดของยาคุมฉุกเฉินหรือไม่

ส่วนอาการคัดตึงเต้านมนั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ได้ครับหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน

จากข้อมูลที่ว่ามีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ไม่แน่ใจว่าหมายถึงในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาตามที่สอบถามหรือเปล่า แต่ถ้าใช่ ก็หมายถึงในบางรอบ ประจำเดือนก็มาเร็วกว่า 30 วัน และบางรอบก็มาช้ากว่า 30 วันใช่มั้ยคะ?

งานวิจัยเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน ชี้ว่า ประจำเดือนของผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินมากกว่า 90% มักจะมาตรงตามรอบเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่เกิน 4 วันค่ะ

แต่ในกรณีของคุณ หากประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอและคลาดเคลื่อนมากอยู่แล้ว ก็มีโอกาสที่ประจำเดือนจะคลาดเคลื่อนมากตามที่เคยเป็น ซึ่งอาจเป็นผลจากยาคุมฉุกเฉินร่วมด้วย หรือไม่ใช่ผลของยาคุมฉุกเฉินเลยก็ได้ค่ะ

จึงบอกได้ยากว่าเลือดที่ออกมาในครั้งนี้ เป็นประจำเดือนหรือไม่ เนื่องจากลักษณะและปริมาณของเลือดสอดคล้องกับลักษณะของประจำเดือนมากกว่าผลข้างเคียงจากยา แต่ระยะเวลาที่เกิดจะสอดคล้องกับผลข้างเคียงจากยามากกว่า ยกเว้นว่าคุณมีรอบประจำเดือนสั้นมาก ๆ หรือคลาดเคลื่อนผิดปกติมากอยู่แล้ว

ดังนั้น เพื่อความมั่นใจว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์กันแน่ แนะนำเช่นเดียวกับคุณหมอแนะนำไปแล้วนะคะ คือให้รอตรวจการตั้งครรภ์เพื่อยืนยันให้ชัดเจนค่ะ โดยถ้าใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ควรตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน หรือจะรอดูในช่วงปลายเดือนนี้ตามที่เคยมีประจำเดือนมาในช่วงปลายเดือนก่อนก็ได้ค่ะ

และหากมีปัญหาประจำเดือนคลาดเคลื่อนผิดปกติมากติดต่อกันหลายเดือน ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมด้วยนะคะ