ตอนนี้มาประจำเดือนอยู่ค่ะแต่ปวดท้องน้อยมาหลายวันแล้วมีสิทจะท้องไหมคะ

สวัสดีค่ะ
การมีประจำเดือนที่มาปกติ คือ จำนวน 3-7 วัน ปริมาณปกติคือใช้ผ้าอนามัย 1-3 แผ่นต่อวัน รอบเดือนปกติของสตรีวัยเจริญพันธุ์นั้น อยู่ที่ 28-35 วัน ก็จะแสดงว่าไม่ตั้งครรภ์ค่ะ

สำหรับอาการปวดท้องน้อยประจำเดือนนั้น เกิดจากการบีบรัดตัวของมดลูกค่ะ ส่วนใหญ่มักจะดีขึ้นหากทานยาแก้ปวดค่ะ
ยาที่ใช้แก้ปวดเบื้องต้น อาจเป็นยาพาราเซตามอล และยากลุ่ม NSAID ที่หาซื้อได้ทั่วไป ได้แก่ ibuprofen, naproxen เป็นต้นค่ะ
วิธีบรรเทาอาการอื่นๆได้แก่ การใช้ถุงน้ำร้อนประคบ ออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน โยคะ ดื่มน้ำอุ่นมากๆ นอนตะแคง
หากอาการปวดยังคงมีอยู่แม้ทานยา อาจต้องหาสาเหตุเพิ่มเติม เช่น โรคชอคโกแลตซิส (หรือเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่) โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อมดลูก โรคติดเชื้อต่างๆค่ะ

ถ้าปวดท้องน้อยตอนเป็นประจำเดือนเกิดจากการบีบรัดตัวของมดลูกซึ่งเป็นปกติค่ะ แต่ถ้าประจำเดือนหายแล้วยังมีปวดท้องน้อยอยู่อาจจะต้องคำนึงถึงสาเหตุด้วย ซึ่งปวดท้องน้อยส่วนใหญ่มักเกิดจากโรคของอวัยวะสืบพันธุ์ โดยเฉพาะในสตรีวัยเจริญพันธุ์ เช่น อุ้งเชิงกรานอักเสบจากติดเชื้อ อาจมีอาการเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ์เช่นตกขาว เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ หรือมีปัสสาวะแสบขัดเป็นต้น สำหรับโรคของอวัยวะใกล้เคียง เช่นระบบทางเดินปัสสาวะ อาจมีอาการปัสสาวะ ทางระบบปัสสาวะ เช่นปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะกระปริดประปรอย ส่วนระบบขับถ่าย อาจมีปัญหาที่ลำไส้เล็กหรือลำไส้ใหญ่ อาการของระบบขับถ่ายเช่น ท้องผูก อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น หรืออาจปวดท้องน้อยจากกิริยาบทในชีวิตประจำวัน ได้แก่กล้ามเนื้ออักเสบ เป็นต้นค่ะ ส่วนถ้าประจำเดือนมาบ่งบอกว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ค่ะ และถ้าต้องการมีเพศสัมพันธ์และต้องการป้องกันควรหาวิธีคุมกำเนิดค่ะ เช่น ถุงยางอนามัย ยาคุมแบบรายเดือน แบบฉีด แบบฝัง เป็นต้นค่ะ