July 04, 2019 03:57
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
อาการนอนไม่หลับ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ จากความผิดปกติของระดับฮอร์โมน จากโรคทางกายบางอย่าง จากสุขลักษณะการนอนที่ไม่เหมาะสม จากความผิดปกติทางด้านจิตใจ เช่น เครียเ วิตกกังวล ซึมเศร้า โรคนอนไม่หลับ เป็นต้น
ในกรณีที่ไม่หลับและต้องใช้ยาต่อเนื่องนานหลายปี มีโอกาสทำให้เกิดภาวะติดยานอนหลับได้ ดังนั้นแนะนำให้พบแพทย์ตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัดดีกว่านะคะ จะได้รักษาหรือแก้ไขที่ต้นเหตุ นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ อาการนอนไม่หลับเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ตั้งแต่จากภาวะเหนื่อยจากการเดินทางระยะไกล (Jet lag) จากภาวะความเครียด จากภาวะหลังผ่าตัด จากการดื่มคาเฟอีนจากกาแฟ ชา น้ำอัดลม จากการดื่มแอลกอฮอล์ จากการสูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย ในห้องมีเสียงรบกวนหรือไฟแจ้ง มีโรคหรือภาวะที่รบกวนจนนอนไม่หลับ เช่นกรดไหลย้อน มีไข้ โรคเรื้อรัง หรือจากโรคทางจิตเวชเช่น ซึมเศร้า ไบโพลาร์ หรือบางคนทำงานเป็นกะๆหรือทำงานตอนกลางคืน ทำให้ไม่สามารถปรับเวลาในการนอนได้ เป็นต้นค่ะ สำหรับการรักษาแพทย์จะรักษาตามสาเหตุ ถ้าเป็นจากภาวะเหนื่อยจากการเดินทางไกล จะให้ยาMelatoninมารับประทานระยะสั้นๆ จนกว่าจะสามารถปรับเวลาตามท้องถิ่นได้ ถ้าเกิดจากการรับประทานอาหารดังที่กล่าวไปข้างต้น ก็ให้หลีกเลี่ยงอาหารเหล่านั้น ถ้าจากสภาพแวดล้อมของห้องนอน ก็ให้ปรับให้เหมาะกับการนอน ส่วนถ้าเกิดจากโรคทางกายหรือทางจิตใจ ก็จะรักษาอาการของโรคนั้นๆค่ะ อย่างไรก็ตามถ้าไม่ทราบต้นเหตุของการนอนไม่หลับแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจและวินิจฉัยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
ปัญหาการนอนไม่หลับของคนเรา เกิดได้จากหลายอย่าง ทั้งปัญหาทางกาย และจิตใจครับ
ส่วนใหญ่ก่อนที่จะไปถึงการตรวจเพิ่มเติม จะต้องสำรวจสุขนิสัยการนอนและคุณภาพการนอนของคนไข้ค่ะ
หมอขอแนะนำให้สำรวจว่ามีพฤติกรรมที่ทำให้นอนไม่หลับหรือไม่และอยากให้ลองปฏิบัติตามสุขอยามัยการนอนที่ดีครับ
1 หลีกเลี่ยงสิ่งต่อไปนี้
- การสูบบุหรี่ ,
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ,
- การออกกำลังกายหนักๆในช่วงก่อนนอน,
- การใช้ยานอนหลับนานต่อเนื่องมากกว่า 1 เดือนยกเว้นตามคำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิด และ
- การทำงานที่มีความเครียดในช่วงก่อนนอน
2 เพิ่มปัจจัยเสริมเพื่อการนอนหลับที่ดี ได้แก่
- ปรับสภาวะแวดล้อมให้เหมาะสมกับการนอน เช่น ห้องนอนควรมืด เงียบสงบ อาการไม่เย็นหรือร้อนจนเกินไป ,
- ปรับที่นอนให้เหมาะสมกับสรีระ เลือกเครื่องนอนให้เหมาะสมกับสรีระของคุณครับ
- อยู่บนที่นอนเมื่อรู้สึกง่วงจริงๆเท่านัน
- ที่นอน มีไว้สำหรับนอนหรือการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น กิน ทำงาน อ่านหนังสือ เป็นต้นครับ,
- ถ้านอนควรนอนต่อเนื่องอย่างน้อย 6-8 ชมครับ แต่หากตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วนอนไม่หลับ ไม่ควรกดดันตนเองในการนอนครับ เช่น ดูนาฬิกาบ่อยๆ
- ถ้าไม่สามารถหลับได้จริงๆ อาจลุกขึ้นมาทำกิจกรรมอย่างสงบ เช่น อ่านหนังสือ ทำใจสบายๆ ฟังวิทยุเบาๆค่ะ ,
- ควรหลับตื่นในช่วงเดียวๆกันของวัน,
- ในระหว่างวัน พยายามไม่งีบหลับค
- ถ้าง่วงมากจริงๆไม่ควรเกิน 1 ชมและไม่ใช่ข่วงหัวค่ำ,
- อาหารและนมบางชนิด มีสารช่วยให้หลับสบายขึ้น ลองทานเป็นมื้อเบาๆก่อนนอนนะครับ
- การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้แจ่มใสช่วยให้หลับสบายครับ
อย่างไรก็ตาม หากยังมีปัญหานอนไม่หลับอีก อาจจะต้องไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนครับ (sleep medicine ) หรือจิตแพทย์ ก็ได้ครับเพราะอาจจะต้องตรวจเพิ่ทเติมร่วมด้วย ว่ามีปัจจัยอะไรร่วมอีกไหม เช่น นอนกรน หยุดหายใจขณะหลับ ความเครียด เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
นอนไม่หลับมา10กว่าปีแล้วค่ะต้องกินยาทุกวันเลยทำยังไงถึงจะนอนหลับแบบไม่ต้องพึ่งยาค่ะหรือหนูเป็นโรคอะไรหรือป่าว
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)