อะดีนอยด์เดคโตมี (Adenoidectomy) คือ การผ่าตัดเอาต่อมอะดีนอยด์ออก โดยต่อมอะดีนอยด์เป็นแผ่นเนื้อเยื่อหนาๆ ที่อยู่ด้านหลังโพรงจมูก ทำหน้าที่ป้องกันแบคทีเรียและไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านทางจมูก หากมีต่อมอะดีนอยด์ใหญ่เกินไป อาจทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้
- หายใจทางปากหรือจมูกลำบาก
- นอนกรน
- หายใจมีเสียงดัง
- หยุดหายใจขณะหลับ
- มีปัญหาเกี่ยวกับไซนัส
- มีการติดเชื้อที่หูเรื้อรัง หรือมีการติดเชื้อที่อื่น
ปกติแล้ว แพทย์จะผ่าตัดต่อมอะดีนอยด์ออกก็ต่อเมื่อการรักษาอื่นๆ ไม่ได้ผลแล้วเท่านั้น ซึ่งการผ่าตัดนี้มักทำในเด็กไปพร้อมๆ กับการทำทอนซิลเลคโตมี (Tonsilectomy) หรือ การผ่าตัดต่อมทอนซิลออก
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ก่อนการผ่าตัดต่อมอะดีนอยด์
ผู้เข้ารับการผ่าตัดจำเป็นต้องบอกแพทย์ว่ารับประทานยาอะไรอยู่บ้าง เพราะแพทย์อาจพิจารณาให้หยุดยาบางชนิด เช่น ยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือยาแอสไพริน (Aspirin) ซึ่งจะต้องหยุดยาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
ขั้นตอนการผ่าตัดต่อมอะดีนอยด์
การผ่าตัดต่อมอะดีนอยด์ มักใช้เวลาไม่เกิน 45 นาทีและใช้การระงับความรู้สึกทั่วร่างกายขณะทำการผ่าตัด ซึ่งหมายความว่าผู้เข้ารับการตรวจจะไม่รู้สึกตัวหรือรู้สึกเจ็บปวดในระหว่างการผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะใส่อุปกรณ์เล็กๆ เข้าไปในปากแล้วเปิดออกให้กว้างขึ้น จากนั้นจึงใช้เครื่องมือผ่าตัดต่อมอะดีนอยด์ออก
แพทย์บางคนอาจใช้กระแสไฟฟ้าหรือพลังงานความถี่ (Radiofrequency) เพื่อให้ความร้อนและตัดเนื้อเยื่อออกได้ โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะผ่าตัดต่อมอะดีนอยด์ผ่านทางปาก จึงไม่มีแผลเป็นบริเวณผิวหนัง
หลังการผ่าตัดต่อมอะดีนอยด์
ผู้เข้ารับการผ่าตัดสามารถกลับบ้านได้เลยภายหลังจากผ่าตัดเสร็จ ในระหว่างนี้อาจต้องรับประทานอาหารเบาๆ หรืออาหารที่เย็นๆ เช่น โยเกิร์ต และต้องดื่มน้ำมากๆ
ต่อมอะดีนอยด์บริเวณที่ถูกตัดไปจะสมานได้เองตามธรรมชาติและจะหายเป็นปกติใน 1-2 สัปดาห์ ผู้เข้ารับการผ่าตัดอาจรู้สึกว่าเสียงเปลี่ยนไปบ้างหลังการผ่าตัด อาการนี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่ถ้าหากพบความผิดปกติดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- มีเลือดออกรุนแรงหรือมีเลือดสดไหลออกจากจมูกหรือปาก
- ไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส
- มีอาการปวดบาดแผลไม่หายหรือปวดศีรษะจากบาดแผล
- จมูกและตาบวมหรือแดงมากขึ้น