4 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำก่อนเข้านอน ถ้าอยากนอนหลับสนิท

เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 1 นาที
4 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำก่อนเข้านอน ถ้าอยากนอนหลับสนิท

การนอนคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด ดังนั้นก่อนการเข้านอนคุณควรเตรียมร่างกายให้พร้อมเพื่อการพักผ่อนที่ดีที่สุดด้วย และพฤติกรรมต่อไปนี้เป็นพฤติกรรมที่คุณไม่ควรทำก่อนนอนเป็นอันขาด เพราะจะส่งผลต่อการนอนของคุณได้ ซึ่งอาจทำให้คุณนอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิทได้นั่นเอง จะมีพฤติกรรมใดบ้างนั้น เรามาดูกันเลย

การแช่น้ำอุ่น

การอาบน้ำอุ่นก่อนนอนจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกสบายตัวมากขึ้นได้ แต่หลังจากอาบน้ำอุ่นเสร็จใหม่ๆ อาจจะทำให้คุณนอนไม่หลับ ทั้งนี้ก็เพราะน้ำอุ่นไปกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวจนนอนไม่หลับได้นั่นเอง แต่หากคุณอยากจะแช่น้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้ามาทั้งวันแล้วล่ะก็ แนะนำให้แช่น้ำอุ่นก่อนนอนอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง จะช่วยให้คุณนอนหลับสบายมากทีเดียว

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจการนอน Sleep Test วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,455 บาท ลดสูงสุด 50%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ทานอาหารอิ่มเกินไป

มื้อเย็นควรเป็นมื้อเบาๆ เป็นอาหารที่ย่อยง่าย เพราะการทานมื้อเย็นหนักเกินไปจะทำให้คุณแน่นท้องจนนอนไม่หลับ และอาจมีผลต่อการกระตุ้นสมองให้คุณนอนฝันร้ายอีกด้วย ดังนั้นใครที่มักจะทานมื้อเย็นจนอิ่มมากเกินไป ควรลดปริมาณมื้อเย็นลงหรือจะเลือกทานพวกผักผลไม้เป็นหลักก็ได้ แค่นี้ก็ไม่ทำให้แน่นท้องและช่วยให้นอนหลับสบายได้แล้ว

ชอบคิดมาก

สำหรับใครที่ชอบคิดมากก่อนนอน ควรเลิกพฤติกรรมนี้ได้แล้ว เพราะนั่นจะทำให้จิตใจของคุณไม่สงบและความเครียดจะทำให้คุณนอนไม่หลับหรือนอนฝันร้ายได้นั่นเอง ซึ่งทางที่ดีคุณควรทำจิตใจให้สงบผ่อนคลาย และควรหยุดคิดและหลีกเลี่ยงการสนทนาที่อาจก่อให้เกิดความเครียดด้วย เพื่อที่ร่างกายจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่และนอนหลับฝันดี

ดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีน

ก่อนนอนคุณไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน อย่างเช่น กาแฟ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกตื่นตัว กระปรี่กระเปร่า จนนอนไม่หลับ อีกทั้งยังส่งผลให้คุณเกิดความอ่อนล้า อ่อนเพลีย ในวันรุ่งขึ้นอีกด้วย แต่หากดึกๆ คุณรู้สึกอยากดื่มอะไรอุ่นๆ สักแก้ว ควรเลือกเป็นนมอุ่นจะดีกว่า นอกจากจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพแล้วยังทำให้นอนหลับสบายอีกด้วย

ไม่อยากให้มีอะไรมารบกวนการนอนที่สุขสบายของคุณ ควรเลิกพฤติกรรมเหล่านี้และปรับพฤติกรรมการนอนของคุณเสียใหม่ ด้วยการนอนตั้งแต่ช่วงค่ำๆ ไม่เกิน 4 ทุ่มและนอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง แค่นี้คุณก็จะตื่นมาพร้อมกับความสดใสร่าเริง และมีสุขภาพดีจากการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว อีกทั้งยังทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์ลงอีกด้วย


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Suzanne Bertisch, MD, MPH, No more counting sheep: Proven behaviors to help you sleep (https://www.health.harvard.edu/blog/no-more-counting-sheep-proven-behaviors-to-help-you-sleep-2018110515313)
Gail Belsky, What Not to Do at Bedtime: 6 Bad Behaviors That Can Steal Your Sleep (https://www.health.com/condition/sleep/what-not-to-do-at-bedtime-6-bad-behaviors-that-can-steal-your-sleep), February 29, 2016

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
วิธีรักษาอาการนอนไม่หลับ ด้วยหลักทางการแพทย์
วิธีรักษาอาการนอนไม่หลับ ด้วยหลักทางการแพทย์

นอนไม่หลับ มีทั้งนอนไม่หลับเฉียบพลันและนอนไม่หลับแบบเรื้อรัง อาการนอนไม่หลับเรื้อรังอาจใช้ยาช่วยได้ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

อ่านเพิ่ม