May 02, 2019 11:00
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ การที่นอนแล้วฝันบ่อยๆอาจจะเกิดจากการที่วิตกกังวล กรือคิดถึงเรื่องนั้นอยู่บ่อยๆ จึงเกิดการฝันได้ครับ และการที่รู้สึกว่าพักไม่พอ เพราะ ว่าร่างกายเกิดการกังวลจึง ไม่สามารถนอรพักได้พอ แนะนำว่าควรลองกินยานอนหลับหรือยาคลายกังวลดูก่อนครับ ว่าจะดีขึ้นไหม ยานอนหลับก่อนหรือยาคลายกังวลจะใช้แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนนะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
อาการฝันดังกล่าวอาจเกิดจากความเครียด ความวิตกกังวล ซึ่งถูกเก็บกดไว้ในตอนที่รู้สึกตัว แต่พอนอนหลับภาวะรู้ตัวลดลงทำให้สิ่งที่ถูกเก็บเอาไว้ระบายออกมาโดยการฝัน
การฝันบ่งถึงคุณภาพการหลับ หากฝันตลอดคือ หมายถึงการหลับไม่สนิท ตื่นเช้าอาจทำให้เกิดอาการเพลีย รู้สึกเหนื่อยเหมือนไม่ได้พักผ่อน หากหลับไม่สนิทบ่อยๆ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย และสุขภาพจิตใจได้ค่ะ
ดังนั้นในกรณีนี้แนะนำให้ลองออกกำลังกาย หรือ ผ่อนคลายความเครียดด้วยการทำกิจกรรมที่ชอบหรือการพูดคุยปรึกษากับคนที่ไว้วางใจ ปรับพฤติกรรมการนอนให้เหมาะสม เช่น เข้านอน-ตื่นนอน เป็นเวลา ไม่ทำงานก่อนนอน หรือไม่เล่นสมาร์ทโฟนก่อนนอน ห้องนอนควรปราศจากสิ่งรบกวน หลีกเลี่ยงการใช้สารกระตุ้นในช่วงบ่าย-ก่อนนอน
หากปรับแล้วยังคงมีปัญหาการนอนหลับ ก็ต้องไปพบแพทย์ตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด แก้ไขตามสาเหตุต่อไปนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้เป็นคนคิดมาก หรือเก็บเรื่องอะไรมาคิดมากอยู่แล้ว ที่ฝันก็ไม่ได้เป็นฝันร้ายอะไร แต่พอฝัน มันทำให้เรารู้สึกอยู่ในเรื่องราว รู้สึกเหนื่อยไปตามเรื่องราว เหมือนไม่ได้นอนอะค่ะ
แต่ยังไงจะทำตามคำแนะนำนะคะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ในเรื่องของความฝันที่เกิดขึ้นนี้อาจจะไม่ได้มีอันตรายอะไรมาก เพียงแต่อาจจะทำให้รู้สึกพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่การฝันร้ายซ้ำๆกันนี้ผมคิดว่าจะเป็นสัญญาณเตือนถึงเรื่องความวิตกกังวลแบบที่คุณหมอได้ให้ข้อมูลไว้ ซึ่งการที่คุณนอนหลับได้โดยไม่ฝันเยอะอาจจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นมากขึ้นได้ครับ
วิธีการหลักๆอาจจะเป็นเรื่องการทำสมาธิก่อนนอนเพื่อให้ก่อนที่จะนอนไม่มีความคิดตกค้างอยู่ หรือการลองออกกำลังกายในช่วงเย็นเพื่อให้ร่างกายรู้สึกเพลียและนอนหลับไปได้เอง นอกจากนั้นการดูโทรทัศน์หรือเล่นโทรศัพท์ที่ไม่มีการดูสื่อที่สะเทือนอารมณ์หรือเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวก็อาจจะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยให้คุณนอนหลับโดยที่ฝันน้อยลงได้ครับ นอกจากนั้นมอยากให้คุณได้ลองจัดสภาพแวดล้อมในห้องนอนไม่ให้มีแสงสว่างเข้า ไม่มีเสียงรบกวน และนอนในที่นอนที่เรารู้สึกสบายและผ่อนคลายครับ ควรงด ชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมที่มีส่วนผสมของคาเฟอีกก่อนช่วงเวลานอนครับ การอาบน้ำอุ่น ทานนมอุ่นๆหรือกล้วย ก็จะสามารถช่วยให้ร่างกายมีอาการง่วงมากขึ้นได้ครับ แต่พยายามอย่าออกกำลังกายหักโหมก่อนเวลานอนนะครับเพราะการออกกำลังกายหนักๆจะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายทำงานและอาจจะทำให้หลับได้ยากขึ้น
ลองใช้วิธีการเหล่านี้ดูนะครับ หากว่ายังฝันอยู่เยอะๆจริงๆ ลองปรึกษาคุณหมอในเรื่องนี้ก็ได้ครับเผื่อว่าจะได้ยานอนหลับมาช่วย หากมีคำถามอื่นๆเพิ่มเติมก็สอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุณหมอ คือหนูเป็นคนที่ฝันทุกครั้งที่นอนเลยค่ะ จะนอนกลางวันหรือกลางคืนก็จะต้องฝัน ส่วนเรื่องที่ฝันก็มาจากเรื่องที่พบเจอเองในชีวิตประจำวันนี่แหละค่ะ เอามาผสมรวมกัน เป็นแบบนี้มานานแล้วค่ะ จำความรู้สึกของการนอนหลับแบบไม่ฝันไม่ได้แล้วค่ะ ตื่นมาก็มีเหนื่อยๆบ้างนะคะ เพราะเหมือนกับเราตื่นขึ้นมาจากเรื่องราวที่กำลังคิด กำลังฝันอยู่ อยากทราบว่าเป็นแบบนี้มันอันตรายยังไงบ้างคะ แล้วหนูควรทำยังไงให้นอนหลับได้จริง แบบหลับลึกจริงๆ ขอบคุณมากค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)