มีประจำเดือนในวันที่ 19-24 มีพสพ.กันในวันที่ 25 ทานยาคุมฉุกเฉินในวันที่ 26 พอทานได้อาทิตย์นึงมีประจำเดือน ในวันที่ 3-6 ท้องหรือไม่ท้องคะ ปัจจุบันตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มาอีกเลยค่ะแต่ตอบที่มีพสพ.ไม่ได้อะไรขนาดนั้นนะคะแค่ผ่านๆไปเฉยๆ

สวัสดีครับ
หลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปประมาณ 1 สัปดาห์นั้นอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีอาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดและอาจทำให้สับสนกับการมีประจำเดือนได้ครับ ซึ่งเมื่อดูจากระยะห่างของเลือดที่ออกมาแล้วเลือดที่ออกมาในวันที่ 3-6 ก็ยังดูเร็วเกินไปที่จะเป็นประจำเดือน ในตอนนี้จึงยังไม่สามารถสรุปได้อย่างแน่ชัดว่าจะไม่มีการตั้งครรภ์ เนื่องจากยังไม่มีประจำเดือนมาตามปกติครับ

หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันให้แน่ใจก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ถ้าเลือดที่ออกมาในวันที่ 19 - 24 กันยายน เป็นประจำเดือนจริง ๆ เลือดที่ออกมาในวันที่ 3 - 6 ตุลาคม ก็น่าจะเป็นเพียงหยดเลือดซึมหรือเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยานะคะ ไม่ใช่ประจำเดือน

เพราะยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาเร่งประจำเดือนค่ะ ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วัน ซึ่งประจำเดือนปกติควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ

ส่วนเลือดที่เป็นผลข้างเคียงจากยา เป็นเพียงหยดเลือดซึมหรือเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัย อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ หากพบ อาจเกิดขึ้นเพียงแค่วันเดียว หรือเป็นอยู่นาน 2 - 4 วันก็ได้เช่นกัน

ดังนั้น เมื่อยังไม่ถึงรอบประจำเดือนปกติของผู้ถาม ก็แนะนำให้รอดูไปก่อนนะคะ ยังถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% ตามผลป้องกันของยาคุมฉุกเฉิน และยังไม่สามารถสรุปได้ในตอนนี้ค่ะว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่

แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

และครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ ถ้าไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ อยู่และยังไม่พร้อมจะมีบุตร ควรให้แฟนใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์นะคะ เพราะถ้าใช้ถูกต้อง และตรวจสอบแล้วว่าไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ

ความเครียดอาจเป็น 1 ในสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาได้ แต่เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ผ่านมายังไม่ได้ปลอดภัยมากนักจึงควรลองตรวจการตั้งครรภ์ในช่วงเวลาที่หมอได้แนะนำไปก่อนครับ

และถ้าหากตรวจแล้วไม่พบว่ามีการตั้งครรภ์ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง เนื่องจากประจำเดือนอาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
เป็นต้น
แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุครับ

***ตอบคำถามที่ว่า "ตรวจแล้วเชื่อถือได้ 100% หรือไม่" ก่อนที่ผู้ถามจะลบคำถามนั้นไปนะคะ***

ถ้าใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ถูกวิธีตามที่ระบุไว้ในฉลาก และตรวจในเวลาที่เหมาะสม นั่นคือ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ปัสสาวะแรกของวัน และตรวจห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน

เมื่อได้ผลตรวจออกมาเป็น 1 ขีด แม้จะไม่สามารถรับประกันได้ 100% แต่ก็เชื่อมั่นได้มากกว่า 99% หรือตามที่ชุดทดสอบยี่ห้อที่ผู้ถามใช้ให้การรับรอง (เช่น ชุดทดสอบหลายยี่ห้อจะระบุไว้ที่ฉลากว่า "ถูกต้องมากกว่า 99.99%") ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ

ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 25 กันยายน การตรวจการตั้งครรภ์ในตอนนี้ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้แล้วครับ

ชุดตรวจการตั้งครรภ์ในปัจจุบันทุกยี่ห้อมีประสิทธิภาพในการตรวจใกล้เคียงกันทั้งหมดจึงจะใช้ชุดตรวจชนิดใดก็ได้ครับ หมอแนะนำให้ไปซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์จากร้านขายยาทั่วไปได้เลยครับ

ถ้าหากไม่ได้มีเพศสัมพันธ์โดยการสอดใส่ก็จะแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้เกิดการตั้งครรภ์ครับ ในกรณีนี้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์มาก แต่ถ้าหากต้องการความมั่นใจจริงๆหมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูในช่วงเวลาที่หมอได้แนะนำไปก่อน ยังไม่ควรต้องกังวลไปก่อนล่วงหน้าครับ