อาการท้องอืดหลายคนคนคิดว่าคือการกินอาหารมากเกินไป แต่บางทีท้องอืดก็เกิดจากการกินอาหารได้เหมือนกัน โดยเฉพาะพวกคาร์โบไฮเดรตซึ่งมีการดูดซึมในลำไส้ได้น้อย และมักอุดมไปด้วยน้ำตาลจากธรรมชาติสูง หรือเรียกอีกชื่อว่า "FODMAPs" (Fermentable Oligo-Di-Monosaccharide and Polyols) โดย FODMAPs นั้น มักดูดซึมในลำไส้เล็กน้อย และต่อมาจะเกิดหมักหมมโดยเชื้อจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร แล้วเกิดแก๊สขึ้นในลำไส้ใหญ่ ทำให้รู้สึกท้องอืด ทางที่ดีควรดื่มน้ำเปล่าเพื่อช่วยขับแก๊ส หรืออาจต้องเลี่ยงอาหารบางชนิดดังต่อไปนี้
โยเกิร์ต
โยเกิร์ตบางชนิดส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะโยเกิร์ตทำจากนมเปรี้ยวที่ได้จากการหมัก และเต็มไปด้วยน้ำตาลแล็กโทส แล้วไปหมักบ่มอยู่ในลำไส้แล้วค่อยๆเกิดฟองแก๊สขึ้น จึงรู้สึกคล้ายๆมีลมและเกิดการปั่นป่วนในท้อง ทางที่ดี ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ให้ทานรสธรรมชาติ ซึ่งมีน้ำตาลน้อยและโปรตีน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ผักตะกูลกะหล่ำ
ได้แก่ กะหล่ำปลี, บรอกโคลี และกะหล่ำดอก ซึ่งจะมีคาร์โบไฮเดรตที่เรียกว่าแรฟฟิโนส ซึ่งประกอบด้วยน้ำตาล 3 ชนิดคือ ฟรักโทส กลูโคส และกาแลกโทส และร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลชนิดนี้ได้ในระบบทางเดินอาหาร จนกว่าจะถูกลำเลียงไปยังลำไส้ใหญ่ ซึ่งจะถูกย่อยให้เล็กลงจากแบคทีเรียที่อยู่ในนั้น ซึ่งกว่าจะย่อยได้หมด กากอาหารจากผักจะเกิดการหมักหมมจนกลายเป็นแก๊สในที่สุด ทางที่ดีหากจะรับประทานควรนำไปอบหรือย่างให้สุกก่อนกิน
ถั่ว
เป็นคาร์โบไฮเดรตย่อยเป็นน้ำตาลได้ยาก เพราะเป็นเส้นใยอาหารที่ไม่สามารถย่อยได้ตามธรรมชาติ หรือไม่ถูกดูดซึมได้ในลำไส้เล็ก จึงทำให้เกิดท้องอืด ซึ่งพบในถั่วเปลือกแข็ง แต่หากต้องการทานให้นำถั่วเปลือกแข็งแช่น้ำไว้ค้างคืน ความชุ่มจากน้ำจะช่วยให้ถั่วนิ่มและยับยั้งคาร์โบไฮเดรตได้บางส่วน ทำให้ลดอาการท้องอืดได้
ผักในตระกูลหัวหอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอม
เพราะคาร์โบไฮเดรต ชื่อฟรุกแทน (Fructan) ที่พบในหัวหอมใหญ่ เป็นปัญหาต่อช่องท้อง และมักดูดซึมในลำไส้ได้น้อย จึงทำให้เกิดน้ำในลำไส้ ส่งผลให้เกิดแก๊สและท้องอืด
แตงโม
เพราะอุดมไปด้วยน้ำตาลฟรักโทสในระดับสูงมาก และร่างกายไม่สามารถดูดซึมฟรักโทสได้อย่างเต็มที่ จึงนำไปสู่อาการท้องอืด หรืออาจมีท้องเสียร่วมด้วย
สารให้ความหวานสังเคราะห์
ซอร์บิทอล และไซลิทอล ถือเป็นน้ำตาลแอลกอฮอล์ ซึ่งถูกใช้เป็นส่วนประกอบของหมากฝรั่ง ด้วยน้ำตาลเหล่านี้จะมีการดูดซึมในลำไส้เล็กได้ค่อนข้างช้า จึงทำให้ให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ท้องอืด แน่นท้อง หรืออาจท้องเสียได้
ธัญพืช
เพราะมีส่วนประกอบของฟรุกแทน ซึ่งไม่ย่อยได้เองตามธรรมชาติ การกินธัญพืชเหล่านี้จึงเท่ากับให้ไปหมักหมมกับเชื้อจุลินทรีย์ในส่วนของลำไส้ใหญ่ จนทำให้เกิดแก๊ส และท้องอืดได้
ทีนี้ก็พอจะรู้กันแล้วว่าอาหารอะไรบ้างที่เป็นตัวการทำให้ท้องอืด แต่ก็ใช่ว่าจะห้ามไม่ให้ทานอาหารเหล่านี้นะ เพราะอาหารทั้ง 7 ชนิดที่กล่าวมานี้ก็ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายของเราทั้งนั้น เพียงแต่ต้องทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อการมีสุขภาพที่ดีและไม่มีปัญหาท้องอืดมากวนใจนั่นเอง