6 สัญญาณที่บอกว่าร่างกายได้รับวิตามินเอไม่เพียงพอ

เผยแพร่ครั้งแรก 4 มี.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
6 สัญญาณที่บอกว่าร่างกายได้รับวิตามินเอไม่เพียงพอ

คุณรู้หรือไม่ว่า มีเด็กกว่า 250 ล้านคนจากทั่วโลกที่ได้รับวิตามินเอไม่เพียง   พอ ? ปัญหานี้มักเกิดกับเด็กในหลายประเทศที่เป็นประเทศที่กำลังพัฒนา และมันสามารถทำให้ถึงขั้นเสียชีวิต หากไม่ได้รับการรักษา

ทั้งนี้วิตามินเอมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของดวงตา การเยียวยาบาดแผล ระบบสืบพันธุ์ หรือการสร้างกระดูก นอกจากนี้มันยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ราบรื่น ช่วยให้ผิวหนัง และเยื่อเมือกที่อยู่ในร่างกายมีสุขภาพดี หากคุณไม่แน่ใจว่าร่างกายกำลังขาดวิตามินเอหรือไม่ เราลองมาดูสัญญาณเตือนเบื้องต้นกันดีกว่า

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

1.ตาบอดกลางคืน

หากร่างกายมีระดับของวิตามินเอต่ำ มันก็สามารถทำให้เกิดการขาดโปรตีนที่มีความไวต่อแสงในดวงตา ซึ่งเรียกว่า Rhodopsin การมีโปรตีนชนิดนี้ไม่เพียงพอจะทำให้ความสามารถในการมองเห็นในที่สลัวแย่ลง ดังนั้นมันจึงทำให้คุณไม่สามารถมองเห็นในตอนกลางคืนได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งอาการดังกล่าวจะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง

2.ตาแห้ง

คนที่ร่างกายขาดวิตามินเอพบว่า ต่อมในเยื่อเมือกที่อยู่ด้านในของเปลือกตา และคลุมอยู่ด้านหน้าของดวงตานั้นจะทำงานได้แย่ลง ส่งผลให้ขาดน้ำตาและเมือก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ดวงตาชุ่มชื้น ดังนั้นการมีดวงตาที่แห้ง และเกิดการระคายเคืองง่ายจึงสามารถบอกเป็นนัยๆ ได้ว่าคุณได้รับวิตามินเอไม่เพียงพอ

3.ผิวแห้ง เป็นผื่น เล็บหัก

วิตามินเอมีบทบาทสำคัญในการสร้าง และรักษาผิวให้มีสุขภาพดี และในบางครั้ง ในระยะแรกของการขาดวิตามินเอ คุณจะสังเกตได้ว่าผิวแห้ง ตกสะเก็ด และรู้สึกคันผิว นอกจากนี้ความแห้งก็อาจขยายไปสู่เส้นผม และทำให้ผมแห้งเสีย หรือหลุดร่วง รวมถึงอาจมีสิวขึ้น เจ็บปาก ริมฝีปากแตก เล็บแตกหักง่าย ฯลฯ

4.มีโฟมสีขาวหรือสีเทาเงินในดวงตา

อีกหนึ่งสัญญาณที่บอกว่าร่างกายขาดวิตามินเอคือ การมีโฟมที่เรียกว่า Bitot’s spots เกิดขึ้นในส่วนของตาขาว ซึ่งเกิดจากการก่อตัวขึ้นของเคราติน โดยสามารถเป็นได้ทั้งรูปทรงสามเหลี่ยม หรือไร้รูปทรง และมักอยู่ในตำแหน่งเดียวกับเลข 9 และ เลข 3 ในนาฬิกา ซึ่งจะปรากฏให้เราเห็นเพียงเล็กน้อย และมีความคล้ายคลึงกับผิวมากกว่าที่จะเป็นเยื่อเมือก

5.แผลเปื่อยในกระจกตาและตาบอด

หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม การขาดวิตามินเอสามารถทำให้เจ็บ หรือเกิดแผลเปื่อยในดวงตา ซึ่งจะมีลักษณะเหมือนกับรูเล็กๆ หรือมีลักษณะที่ดูนุ่มนิ่ม และอาจทำให้ตาบอดได้ในที่สุด

6.ติดเชื้อบ่อย

วิตามินเอได้รับสมญานามว่าเป็นวิตามินที่ช่วยต้านการติดเชื้อ เพราะมันมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้เซลล์ผิว และเยื่อเมือกที่อยู่ในทางเดินปัสสาวะ ทางเดินอาหาร และทางเดินหายใจ จะทำหน้าที่เป็นเกราะ และช่วยป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งวิตามินเอมีส่วนสำคัญในการสร้าง และรักษาเซลล์เหล่านี้ หากร่างกายขาดวิตามินเอ มันก็จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแย่ลง และทำให้เกิดการติดเชื้อหลายแห่ง เช่น การติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ ทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร ช่องคลอด กระเพาะอาหาร ฯลฯ

หากคุณสังเกตว่ามีอาการตามที่เรากล่าวไป คุณก็ไม่ควรเพิกเฉย และลองไปพบแพทย์ หากแพทย์วินิจฉัยว่าคุณได้รับวิตามินเอไม่เพียงพอ คุณก็ควรทานอาหารที่มีวิตามินเอให้มากขึ้นค่ะ


6 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
แตงโมผลไม้ฉ่ำน้ำที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ
แตงโมผลไม้ฉ่ำน้ำที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ

หวาน เย็น ชื่นใจ ดีต่อร่างกายแน่ ถ้ารับประทานอย่างเหมาะสม

อ่านเพิ่ม
วิตามินเอสำคัญอย่างไร
วิตามินเอสำคัญอย่างไร

ทำความรู้จักประโยชน์ของวิตามินเอรอบด้าน และปริมาณที่ควรรับประทานต่อวัน

อ่านเพิ่ม