ปกติแล้วลิ้นของคนเรามักเป็นสีชมพูอ่อนถึงเข้ม แต่สำหรับคนที่มีอาการลิ้นเป็นฝ้า หรือ White tongue เมื่อแลบลิ้นออกมาดู จะพบว่าลิ้นมีคราบหรือปื้นสีขาว คล้ายคราบนม ที่เราเรียกว่าฝ้านั่นเอง ฝ้าที่ลิ้นเป็นอาการชั่วคราวที่บางครั้งก็เกิดจากอาหารการกินที่เราทาน เช่น ในเด็กทารกที่ดื่มนมเป็นประจำ ก็พบอาการลิ้นเป็นฝ้าขาวเช่นนี้ได้ แต่หากอาการลิ้นเป็นฝ้านั้นไม่หายไป หรือเป็นต่อเนื่องกันหลายสัปดาห์ ร่วมกับมีอาการอื่นๆ เช่น ลิ้นเป็นแผล ก็ให้ระวังไว้ว่าอาจเป็นสัญญาณถึงโรคที่ร้ายแรงกว่านี้ได้
ลิ้นเป็นฝ้า เกิดจากอะไรได้บ้าง?
- มีเศษอาหารตกค้างในช่องปาก เช่น คนที่ดื่มนมมากๆ หรืออมลูกอมเป็นประจำ จะพบคราบอาหารติดอยู่ที่ลิ้นได้ รวมถึงหากช่องปากไม่สะอาด มีฟันผุหรือหินปูนมาก ก็อาจพบฝ้าที่ลิ้นได้เหมือนกัน ซึ่งไม่เป็นอันตราย ถ้าใช้แปรงสีฟันแปรงที่ลิ้นเป็นประจำ รวมถึงรักษาความสะอาดในช่องปาก ฝ้าจะค่อยๆ หายไปเอง
- ดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่จัด จนทำให้เซลล์ในช่องปากมีจำนวนมากกว่าปกติ และเกิดการทับถมของเคอราติน กลายเป็นคราบขาวฝังบนลิ้น อาการแบบนี้เรียกว่า โรคฝ้าขาว หรือ Leukoplakia หากมีฝ้าบนลิ้นสะสมนานหลายปี อาจทำให้เกิดมะเร็งในช่องปากตามมาได้
- มะเร็งที่ลิ้นหรือมะเร็งในช่องปาก ซึ่งมักเกิดกับเซลล์เยื่อบุช่องปาก หรือเซลล์บุผิวลิ้น ทำให้เกิดคราบขาวเกาะตัวบนลิ้น ฝ้าที่เกิดขึ้นจะหนาและไม่เรียบ รวมถึงอาจมีอาการเจ็บลิ้นหรือมีแผลในปากด้วย
- โรคซิฟิลิส รอยโรคของซิฟิลิสมีลักษณะเป็นแผลริมแข็งเล็กๆ ในปากหรือบนผิวลิ้น ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังได้รับเชื้อภายใน 3 เดือน และหากไม่ได้รับการรักษา ก็อาจทำให้เกิดฝ้าที่ลิ้นได้เช่นกัน
- เชื้อราในปาก เชื้อราที่พบในปากมักเป็นยีสต์ Candida albican ซึ่งมักพบในคนที่ร่างกายอ่อนแอ มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น เด็กทารก ผู้สูงวัย หรือผู้ติดเชื้อ HIV ลักษณะเด่นคือเป็นปื้นหรือขุยสีขาวหนาบนลิ้น และสามารถขูดออกได้ และอาจมีอาการปวดแสบลิ้น หรือมีแผลที่ลิ้นร่วมด้วย หากสังเกตว่าลิ้นเป็นฝ้าประเภทนี้ ให้สงสัยว่าภูมิต้านทานเราอาจอ่อนแอลงจากโรคบางอย่าง
เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์?
- พบว่าลิ้นเป็นฝ้านานเกิน 2 สัปดาห์และยังไม่หายไปเอง โดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีอาการเจ็บปวดที่ลิ้นหรือในช่องปาก มีแผล หรือมีก้อนในปากที่ผิดปกติ
- ฝ้าบนลิ้นเป็นคราบหนา และขูดออกมาเป็นขุย
- มีอาการปากแห้ง หรือลิ้นชาร่วมด้วย
การรักษาเมื่อเกิดลิ้นเป็นฝ้า
การรักษาฝ้าที่ลิ้นต้องคำนึงถึงสาเหตุที่เกิดเป็นหลัก หากฝ้านั้นเกิดจากมีคราบอาหารสะสมในปาก ก็ให้รักษาความสะอาดในช่องปาก โดยการแปรงฟันและแปรงลิ้นเป็นประจำ รวมถึงขูดหินปูนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งฝ้าที่ลิ้นแบบนี้ไม่เป็นอันตราย และสามารถหายไปเองได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
หากเป็นฝ้าขาวแบบ Leukoplakia ขั้นแรกควรงดดื่มเหล้าและงดสูบบุหรี่ก่อน และหากแพทย์ประเมินว่ามีความเสี่ยงจะเกิดมะเร็งในช่องปาก อาจต้องรักษาโดยการผ่าตัด หรือการจี้เย็น ส่วนถ้าฝ้าที่ลิ้นนั้นเกิดจากป่วยเป็นมะเร็งแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษามะเร็ง ซึ่งวิธีการรักษานั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
ในกรณีที่ลิ้นเป็นฝ้าจากเชื้อรา แพทย์จะรักษาโดยให้ยาต้านเชื้อรา ซึ่งมีทั้งรูปแบบยาน้ำ ยาเม็ด ยาอม หรือยาทา โดยอาจมีผลข้างเคียงบ้าง เช่น คลื่นไส้ ปวดท้อง หลังรับยาแล้วฝ้าที่ลิ้นจะค่อยๆ หายไปภายใน 2 สัปดาห์ แต่หากสาเหตุสำคัญนั้นเกิดจากเจ็บป่วยเป็นโรคที่ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ แพทย์ก็จะทำการวินิจฉัยและรักษาโรคต้นเหตุนั้นต่อไปด้วย