กลุ่มอาการ Sjogren เป็นโรคทางระบบภูมิคุ้มกันแบบเรื้อรังที่ทำให้เกิดการทำลายต่อมที่ทำหน้าที่สร้างความชุ่มชื้นให้กับตาและปาก Sjogren’s Syndrome Foundation ได้กล่าวว่ามีชาวอเมริกันประมาณ 4 ล้านคนที่เป็นโรคนี้ 9 ใน 10 ของผู้ป่วยโรคนี้เป็นผู้หญิง และโรคนี้สามารถพบได้ในทุกเชื้อชาติและกลุ่มชาติพันธุ์
สาเหตุของการเกิดกลุ่มอาการ Sjogren
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าอะไรทำให้เกิดโรคนี้ แต่เชื่อว่าเกิดจากปัจจัยหลายอย่างรวมกัน ประกอบด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- การตอบสนองของภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ
- ฮอร์โมนเพศ
- พันธุกรรม
- สิ่งแวดล้อม (แม้ว่าจะยังไม่ทราบว่าสิ่งแวดล้อมใดที่ทำให้เกิดโรคนี้แน่ชัด)
กลุ่มอาการ Sjogren (ตั้งชื่อตาม Henrik Sjogren จักษุแพทย์ชาวสวีเดนซึ่งเป็นคนแรกที่อธิบายโรคนี้) เกิดเมื่อเม็ดเลือดขาวของคุณเข้าโจมตีต่อมที่ทำหน้าที่สร้างความชุ่มชื้น เช่นที่ทำหน้าที่สร้างน้ำตาลและน้ำตา ทำให้มีการสร้างสารดังกล่าวไม่เพียงพอ กลุ่มอาการนี้ส่งผลต่อตาและปากมากที่สุด แต่อาจส่งผลต่อลำไส้และอวัยวะอื่นได้เช่นกัน
อาการของกลุ่มอาการ Sjogren
ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น กลุ่มอาการ Sjogren ครึ่งหนึ่งจะเป็นโรคทางระบบภูมิคุ้มกันอื่นๆ ร่วมด้วน เช่นโรคข้ออักเสบชนิดรูห์มาตอยด์ โรคลูปัส หรือโรคหนังแข็ง อ้างอิงจาก SSF อาการของกลุ่มอาการนี้อาจคงอยู่ในระดับเดิมหรือแย่ลงได้ และในบางรายอาการอาจหายไปช่วงหนึ่งก่อนกลับเป็นซ้ำ แต่พบได้น้อยมาก
ความรุนแรงของอาการนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และอาจมีอาการดังต่อไปนี้
- ตาแห้ง อาจมีตาแดงหรือแสบตา
- ปากและคอแห้ง ทำให้การเคี้ยวและกลืนทำได้ยากขึ้น
- ไอแห้ง
- ต่อมน้ำลายหน้าหูโตขึ้น
- รับรสเปลี่ยนไป
- พูดลำบาก
- มีปัญหาเกี่ยวกับฟัน
- อ่อนเพลียรุนแรง
- ปวดตามกล้ามเนื้อ ข้อ หรือทั่วร่างกาย
- มีการระคายเคืองเส้นประสาทบริเวณแขน มือ ขา หรือเท้า
- ชาหรือมีอาการแปล๊บ
- การทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปกติ
- มีผื่น
- สูญเสียความทรงจำ
- ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
- มีการอักเสบที่ปอด ไต ตับ หรือตับอ่อน
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
การรักษากลุ่มอาการ Sjogren
กลุ่มอาการ Sjogren มักวินิจฉัยผิดเป็นโรคอื่นเนื่องจากมีอาการที่คล้ายคลังกัน รายงานของ SSF พบว่าโดยเฉลี่ยนแล้วต้องใช้เวลาเกือบ 4 ปีหลังจากเริ่มมีอาการครั้งแรกก่อนที่จะสามารถวินิจฉัยโรคนี้ได้ ปัจจุบันไม่มีวิธีการรักษาโรคนี้ให้หายขาดและมีการรักษาที่จะช่วยลดความไม่สบายกายได้
แพทย์อาจแนะนำวิธีดังต่อไปนี้
การดูแลสุขภาพช่องปาก : การดูแลสุขภาพช่องปากที่ดี เช่นการใช้ยาสีฟันชนิดเฉพาะสามารถช่วยให้ฟันและเหงือกของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรง
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
การดูแลตา : แพทย์อาจสั่งจ่ายน้ำตาเทียมเพื่อช่วยลดอาการตาแห้ง น้ำตาเทียมสามารถซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปและใช้ได้บ่อย โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานที่ที่แห้ง หากตาของคุณแห้งมาก อาจใช้ยาในรูปแบบเจล หรืออาจจะต้องเข้ารับการผ่าตัดเล็กที่ใช้เครื่องมือที่เรียกว่า punctual plug เข้าไปในท่อน้ำตา
ยา : แพทย์มักแนะนำให้หลีกเลี่ยงยาที่จะลดสารน้ำในร่างกาย
นอกจากนั้น แพทย์อาจแนะนำให้รับประทาน
- ยาแก้ปวดชนิดอ่อนเพื่อลดอาการปวดกล้ามเนื้อและข้อ เช่น Tylenol (acetaminophen) และยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น Advil หรือ Motrin (ibuprofen) และ Aleve (naproxen)
- Hydroxychloroquine
- ยากลุ่มสเตียรอยด์และยากดภูมิคุ้มกัน เช่น prednisone ยากลุล่มนี้จะมีประโยชน์หากคุณมีอาการที่อวัยวะภายใน
การออกกำลังกาย : การนอนหลับและพักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสามารถช่วยลดอาการอ่อนเพลีย อาการปวด และปัญหาเครื่องความยืดหยุ่นได้
ทำไมมีรอบเดือนแล้วปวดหัวข้างเดียว