ภาวะสูญเสียความทรงจำแบบไม่รุนแรง มักจะเพิ่มขึ้นตามอายุและไม่นับว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่การสูญเสียความทรงจำจากโรคภัยอย่างอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease) ถือเป็นโรคร้ายแรง
เมื่ออายุมากขึ้น บางคนอาจรู้สึกว่าตนเองมีความทรงจำขาดหายไปเป็นครั้งเป็นคราว บางคนอาจลืมชื่อของคนที่เพิ่งรู้จัก หรืออาจลืมว่าสิ่งของบางอย่างอยู่ที่ไหน ขณะที่บางคนอาจสังเกตอาการหลงลืมของตนเองได้จากการจดบันทึกเพื่อจำวันนัดหมายมากขึ้น ภาวะสูญเสียความทรงจำที่เกิดจากอายุถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ส่งผลต่อความสามารถในการใช้ชีวิตแต่อย่างใด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สาเหตุการเกิดภาวะสูญเสียความทรงจำ
มีปัจจัยมากมายที่ทำให้เกิดภาวะสูญเสียความทรงจำ เช่น
- ภาวะขาดวิตามิน B12 (Vitamin B12 deficiency)
- การใช้ยาหรือแอลกอฮอล์ และยาที่แพทย์จ่ายให้บางตัว
- การระงับประสาทจากการผ่าตัด
- การรักษามะเร็ง เช่น เคมีบำบัด การฉายรังสี หรือการปลูกถ่ายไขกระดูก
- การบาดเจ็บหรือกระทบกระแทกที่ศีรษะ
- สมองขาดออกซิเจน
- อาการชักบางประเภท
- เนื้องอกหรือการอักเสบที่สมอง
- ภาวะผิดปกติทางจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า (Depression) โรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar disorder) จิตเภท (Schizophrenia) และโรคหลายบุคลิก (Dissociative disorder)
- การประสบเหตุร้ายแรงทางจิตใจ
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- การบำบัดด้วยการกระตุ้นไฟฟ้า (Electroconvulsive therapy)
- ภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว (Transient Ischemic Attack (TIA))
- โรคที่ทำให้ประสาทเสื่อมลง เช่น โรคฮันทิงตัน (Huntington’s disease) โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis (MS)) หรือโรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease)
- โรคไมเกรน (Migraine)
- การนอนหลับไม่เพียงพอ
เมื่อใดที่ควรไปพบแพทย์?
ควรปรึกษาแพทย์ทันทีที่ภาวะสูญเสียความทรงจำเริ่มส่งผลต่อกิจกรรมประจำวัน ความปลอดภัยในชีวิต และเริ่มเกิดร่วมกับอาการทางร่างกายอื่นๆ เพราะภาวะนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ หากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลให้โรคและภาวะต่างๆ ทำให้อาการนี้ทรุดลง
การวินิจฉัยภาวะสูญเสียความทรงจำโดยแพทย์
แพทย์อาจใช้คำถามทดสอบความจำพร้อมกับตรวจร่างกายทั้งหมด รวมถึงสอบถามเกี่ยวกับอาการทางร่างกายต่างๆ เมื่อได้รับผลการทดสอบแล้ว แพทย์อาจส่งตัวผู้ป่วยต่อไปยังนักประสาทวิทยา อายุรแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเพื่อรับการทดสอบเพิ่มเติมตามสาเหตุของโรค เช่น
- การวัดความสามารถในการคิด
- การตรวจเลือดเพื่อตรวจสอบภาวะต่างๆ เช่น ภาวะขาดวิตามิน B12 และโรคไทรอยด์
- การถ่ายภาพ เช่น การถ่ายภาพสะท้อนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging (MRI)) หรือการสแกนคอมพิวเตอร์ (Computed Tomography (CT) Scan)
- การบันทึกคลื่นไฟฟ้าสมอง (Electroencephalogram (EEG)) เพื่อวัดกิจกรรมทางไฟฟ้าของสมอง
- การเจาะน้ำไขสันหลัง (Spinal Tap)
- การฉีดสีหลอดเลือดสมอง (Cerebral Angiography) เป็นการเอกซเรย์การไหลเวียนของเลือดผ่านสมอง
การวินิจฉัยภาวะสูญเสียความทรงจำ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญอันดับแรก เพราะภาวะทางการแพทย์หลายชนิดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะสูญเสียความทรงจำขึ้น ขณะเดียวกันภาวะทางการแพทย์หลายชนิดก็สามารถรักษาให้หายได้หากมีการตรวจพบเร็ว
การรับมือกับภาวะสูญเสียความทรงจำ
การรับมือกับภาวะสูญเสียความทรงจำ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
- การรับมือกับภาวะสูญเสียความทรงจำของตนเอง หากคุณมีภาวะสูญเสียความทรงจำมากกว่าที่เคยเป็น การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตง่ายๆ เพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยให้ดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ เช่น
- จดบันทึกงานบ้าน และงานอื่นๆ ที่ต้องทำ
- ใช้รายการเช็คลิสต์เกี่ยวกับยาที่คุณต้องรับประทานพร้อมกับเวลาที่ต้องใช้ บางคนอาจเปลี่ยนไปใช้กล่องใส่ยาตามวันเพื่อช่วยให้จำได้ว่าวันหนึ่งต้องใช้ยาอะไรบ้าง
- จัดบ้านให้ง่ายต่อการดูแล
- เข้าร่วมสังคมให้มากขึ้นและทำงานอดิเรกที่คุณสนุกและชื่นชอบที่สุด
- หากภาวะสูญเสียความจำของคุณรุนแรงมากขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์และขอให้บุคคลที่คุณไว้ใจไปด้วย
- การรับมือกับภาวะสูญเสียความทรงจำของบุคคลอันเป็นที่รัก การที่ต้องเห็นคนที่คุณรักทรมานกับภาวะสูญเสียความทรงจำเป็นเรื่องที่ลำบากมาก แต่คุณก็สามารถช่วยเหลือบุคคลดังกล่าวได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของภาวะสูญเสียความทรงจำที่เกิดขึ้น เช่น
- แนะนำให้บุคคลดังกล่าวไปพบแพทย์ หากภาวะสูญเสียความจำเริ่มรบกวนการทำงานในชีวิตประจำวันมากขึ้น และคุณก็ควรไปพบแพทย์พร้อมกับผู้ป่วย
- คอยติดตามการใช้ยาให้ผู้ป่วย
- คอยตรวจสอบสิ่งที่บุคคลดังกล่าวต้องทำในสมุดบันทึก และตรวจสอบเปลี่ยนแปลงข้อมูลอยู่เสมอ
- คอยจัดให้สิ่งของสำคัญอยู่ในสายตาของผู้ป่วย
- ติดโน้ตรอบบ้านเป็นตัวช่วยจำสิ่งต่างๆ
- ส่งเสริมให้ผู้ป่วยเข้าร่วมสังคมให้มากขึ้น
- ใช้ภาพถ่ายหรือของสำคัญของครอบครัวกระตุ้นความจำ
- จัดให้มีคนอยู่ร่วมกับผู้ป่วยที่บ้าน หากภาวะสูญเสียความทรงจำของบุคคลดังกล่าวมีความรุนแรงมาก ควรเลือกใช้บริการผู้ดูแลตามบ้านหรือศูนย์ดูแล
- ใช้ความอดทนให้มาก และอย่าคิดมากกับผู้ที่มีภาวะสูญเสียความทรงจำ พึงจำไว้เสมอว่าพวกเขาเองก็ไม่ต้องการให้ตนเองอยู่ในสถานการณ์นี้เช่นกัน