ยากระตุ้น เป็นยากลุ่มหนึ่งในยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท (psychoactive drug) ที่เพิ่มการทำงานของสมอง ยาเหล่านี้สามารถเพิ่มความตื่นตัว กระตุ้นอารมณ์และการรับรู้ได้ชั่วคราว ยากระตุ้นเหล่านี้มีบางตัวที่ผิดกฎหมายและใช้กันโดยทั่วไป กลุ่มยากระตุ้นจะมีสิ่งที่คล้าย ๆ กัน แต่ยาแต่ละตัวจะมีคุณสมบัติและกลไกการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกัน
ยาที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มยากระตุ้นได้แก่
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
โคเคน
เมตแอมเฟตามีน
ยากระตุ้นที่ต้องสั่งใช้โดยแพทย์
คาเฟอีน
คาเฟอีนเป็นสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทที่ใช้กันอย่างกว้างขวางที่สุดในโลก ซึ่งพบได้ทั้งในกาแฟ ชา โกโก้ ลูกกวาดช็อกโกแลต และน้ำอัดลม ในขณะที่คาเฟอีนมีผลดีหลายอย่าง เช่น เพิ่มพลังงานและความตื่นตัว แต่การใช้ในปริมาณมากสามารถทำให้เกิดอาการ เช่น วิตกกังวลและนอนไม่หลับ อาการขาดยาอาจมีได้ทั้งปวดหัว เหนื่อยเพลีย และหงุดหงิดได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
นิโคติน
นิโคตินจัดเป็นหนึ่งในสามของยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทที่ใช้กันมากที่สุดในโลก แม้ว่าจะถูกใช้ในการแพทย์บ้างเพียงเล็กน้อย ระหว่างช่วงต้นถึงช่วงกลางของศตวรรษที่ยี่สิบ การสูบบุหรี่ถือเป็นกระแสนิยม แต่รายงานของผลเสียต่อสุขภาพทำให้มีการห้ามสูบบุหรี่มากขึ้น อย่างไรก็ตามทางองค์กรควบคุมและป้องกันโรค (CDC) รายงานว่า ในปี 2014 ยังมีประชากรในวัยผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีของสหรัฐอเมริกาที่สูบบุหรี่อยู่ 17% หรือประมาณ 40 ล้านคน
สถาบันยาเสพติดแห่งชาติ (National Institute on Drug Abuse) รายงานว่าการใช้ยาสูบเป็นสาเหตุที่ป้องกันได้ของการเสียชีวิต โรค และความพิการในสหรัฐอเมริกา ซึ่งการใช้บุหรี่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากกว่า 480,000 รายต่อปี
โคเคน
โคเคนเป็นยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทที่ผิดกฎหมาย ซึ่งทำจากใบของต้นโคคา
เมตแอมเฟตามีน
ทุกวันนี้เมตแอมเฟตามีนหรือที่รู้จักกันในชื่อ meth ยังเป็นหนึ่งในยากระตุ้นผิดกฎหมายที่ใช้กันมากที่สุด Meth ทำให้เกิดการเสพติดอย่างรุนแรงและทำลายเนื้อสมอง ทำให้เกิดความเสียหายต่อสมองได้
ยากระตุ้นที่แพทย์ต้องเป็นผู้สั่งใช้
ยากลุ่มนี้เป็นยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทที่ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทอัตโนมัติ ผลบางส่วนจากการใช้ยาเหล่านี้ได้แก่อาการสั่น เส้นเลือดหดตัว กระวนกระวาย หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ หวาดระแวง และเบื่ออาหาร
ในอดีตยาเหล่านี้ใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาภาวะอ้วนและการลดน้ำหนัก แต่คุณสมบัติที่ก่อให้เกิดการเสพติดของยาเหล่านี้ทำให้แทบจะไม่มีการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวอีกต่อไป
ในปัจจุบันยากลุ่มนี้ยังใช้รักษาโรคทางกายและโรคทางจิตเวชบางอย่าง เช่น โรคสมาธิสั้น (ADHD) และโรคลมหลับ (narcolepsy) ชื่อที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปของยากลุ่มนี้ได้แก่ Ritalin, Adderall และ Dexedrine ยากลุ่มนี้ทำงานโดยการเพิ่มผลจาก dopamine และ norepinephrine ซึ่งสามารถทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น เพิ่มการทำงานของระบบการหายใจและรู้สึกเคลิบเคลิ้มเป็นสุขได้