อาการกลัวหรือโรคกลัว (Phobia) เราอาจจะเคยได้ยินหรือกำลังเป็นอยู่ ซึ่งเป็นอาการของการกลัวสิ่งที่ไม่น่าจะทำให้กลัวได้ หรือเป็นการกลัวแบบแปลกๆ อย่างเช่นกลัวลูกโป่ง กลัวหญ้า กลัวที่แคบในลิฟต์ และไม่กล้าขึ้นเครื่องบินเพราะกลัวความสูง โดยคนทั่วไปอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องตลกขบขันหรือคิดว่าเป็นการเสแสร้ง ทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่อย่างที่หลายคนคิด เนื่องจากเป็นอาการกลัวที่รุนแรงและเกิดมาจากความกลัวจริงๆ จนอาจทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ที่เป็นได้ อย่างที่เราจะกล่าวถึงโรคกลัวรูดังต่อไปนี้
โรคกลัวรูคืออะไร?
โรคกลัวรู (Trypophobia) เป็นอาการของคนที่เมื่อเห็นสิ่งที่มีรูกลวงโบ๋หรือนูนๆ มีเม็ดโผล่ขึ้นมาจากรู ไม่ว่ารูปนั้นจะปรากฏขึ้นที่คน สัตว์ หรือสิ่งของก็ตาม โดยรูปจะมีลักษณะไม่เป็นระเบียบและมีขนาดไม่เท่ากัน เช่น ฝักเมล็ดบัว รังผึ้ง สตรอเบอร์รี่ หรือฟองน้ำ เป็นต้น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เมื่อเห็นภาพเหล่านี้แล้วแท้ที่จริงไม่ได้กลัวที่รูอย่างที่เข้าใจ แต่ภาพเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้เกิดความกลัวจนเกิดอาการ ขยะแขยง คัน คลื่นไส้ อาเจียน ตัวสั่น หรือไม่สบายนั่นเอง
สาเหตุของโรคกลัวรู
โรคกลัวรูเกิดจากสมองได้นำภาพรูหรือเม็ดที่ปรากฏไปเชื่อมโยงกับสิ่งที่คิดว่าต้องอันตราย ทั้งๆ ที่ทราบว่าสิ่งที่เห็นนั้นไม่สามารถมีอันตรายหรือทำอันตรายได้ ซึ่งอาจเป็นเพราะคนที่เป็นอาการแบบนี้เคยผ่านการมีประสบการณ์อันเลวร้ายเกี่ยวกับสิ่งที่เห็นขึ้นจากในวัยเด็กมาก่อนก็ได้ หรืออาจมีความผิดปกติที่เกี่ยวกับการทำงานของสมอง รวมถึงมีสภาพแวดล้อมและพันธุกรรมในครอบครัวที่มีความวิตกกังวลมากเกินไป
อาการของโรคกลัวรู
เมื่อเห็นภาพที่มีรูหรือเม็ดที่กลวง มักจะมีอาการขยะแขยง สะอิดสะเอียน คลื่นไส้ อาเจียน ขนลุก ตัวสั่น อึดอัด เป็นลม และช็อกในที่สุด
การรักษาโรคกลัวรู
โรคกลัวรูเป็นโรคที่เกิดจากภายในจิตใจไม่ใช่มาจากทางกาย มีต้นเหตุมาจากความกลัวที่เกิดมาจากจิตใจ ดังนั้นจึงไม่สามารถรักษาด้วยการใช้ยาเพื่อให้กายหายป่วยได้ เพราะฉะนั้นการรักษาที่ถูกวิธีจึงจำเป็นต้องรักษาด้วยการไปพบจิตแพทย์เท่านั้น และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรีบไปพบแพทย์เมื่อมีอาการอย่างรุนแรง เช่น กลัวจนมีอาการซึมเศร้า หรือกลัวติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือนก็ยังไม่หาย และกลัวแบบชนิดไม่มีเหตุผล เพราะกระทบกับสภาพจิตใจจนทำให้ป่วยกายหรือมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงาน
หากมีอาการซึมเศร้าจิตแพทย์อาจต้องใช้ยาร่วมด้วย ทั้งนี้การรักษาด้วยยาต้านซึมเศร้าร่วมกับการบำบัดทางจิตวิทยาให้ชนะความกลัวจะต้องทำควบคู่กันไป ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของจิตแพทย์ว่าควรจะต้องทำอย่างไร
การป้องกันและการดูแลตนเอง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและลดความวิตกกังวลได้ หรืออาจเล่นโยคะที่จะเป็นการฝึกจิตใจหรือสมาธิ ทำให้จิตใจผ่อนคลายและลดความเครียด
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ สารเสพติดต่างๆ และคาเฟอีน
- พักผ่อนให้เพียงพอทุกวัน ช่วยทำให้จิตใจสดชื่นแจ่มใส
- หากรู้สึกตัวว่ามีอาการของโรคกลัวรูแล้ว ควรเข้ากลุ่มที่มีการบำบัดโรคนี้ จะช่วยให้มีความเข้าใจในโรคได้ดีขึ้น และการบำบัดก็จะได้ผลมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
- ฝึกเข้าใกล้สิ่งของหรือสถานการณ์ที่ทำให้รู้สึกกลัวบ่อยๆ เพื่อให้เกิดความคุ้นชิน และพยายามให้กำลังใจตัวเองโดยไม่ท้อแท้ เพื่อให้การบำบัดรักษาเป็นไปอย่างต่อเนื่องและได้ผล
- ถ้าทำแล้วยังไม่ดีขึ้นจะต้องรีบไปพบจิตแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำและได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไป
อาการโรคกลัวรูแม้ว่าคนปกติจะไม่ได้เป็น เมื่อมองภาพรูที่มีลักษณะขรุขระหรือตะปุ่มตะป่ำแล้วยังเกิดความรู้สึกไม่สบายตาหรือไม่ค่อยชอบ อาจเป็นเพราะกลไกในร่างกายคนเราต้องการให้หลีกเลี่ยงจากสัตว์ต่างๆ ที่มีพิษก็ได้ นั่นคือพวกงูหรือแมงป่อง แต่หากเกิดอาการมากเกินไปจนรบกวนจิตใจหมดความสุขแบบนี้ ก็ควรจะรีบไปพบจิตแพทย์แต่เนิ่นๆ จะดีกว่า