สำหรับผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าตามฤดูกาลที่อาศัยในประเทศที่มีฤดูหนาวยาวนานและพระอาทิตย์ขึ้นเพียงไม่กี่โมงนั้น แต่ละวันนั้นช่างยากลำบาก
ผู้ที่เป็นโรคนี้นั้นมักจะมีอาการซึมเศร้าเมื่อกลางวันเริ่มสั้นลงและกลางคืนยาวขึ้น อาการของผู้ป่วยโรคนี้นั้นประกอบด้วยการรู้สึกว่ามีความสุขและระดับพลังงานลดลง, รู้สึกไม่มีค่า, ไม่มีสมาธิ และไม่สามารถควบคุมความต้องการกินน้ำตาลหรืออาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงได้ ถึงแม้ว่าอาการเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ แต่โรคนี้ก็อาจทำให้คุณมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ และมีปัญหาในด้านความสัมพันธ์กับคนรอบข้างและในที่ทำงานได้
ปรึกษาสุขภาพจิต วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 882 บาท ลดสูงสุด 51%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ในปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าโรคนี้นั้นเกิดจากอะไร แต่เชื่อว่าเกิดจากหลายสาเหตุเช่นการเปลี่ยนแปลงวงจรกลางวันและกลางคืนของร่างกาย, การรับแสงของตา, และการทำงานของสารเคมีต่างๆ เช่น serotonin
บางคนพบว่าการรับประทานยาต้านเศร้านั้นสามารถช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ นอกจากนั้นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถใช้รักษาได้ก็คือการใช้แสง
ประโยชน์ของแสง
หากการที่ได้รับแสงอาทิตย์ลดลงนั้นทำให้เกิดโรคนี้ การที่ได้รับแสงเพิ่มขึ้นก็อาจจะรักษาโรคนี้ได้เช่นกัน แสงที่สว่างนั้นจะไปกระตุ้นเซลล์ที่อยู่ในจอรับภาพภายในลูกตาที่เชื่อมต่อกับสมองส่วนไฮโพทาลามัสที่ทำหน้าที่ควบคุมระบบวงจรกลางวันกลางคืนของร่างกาย การกระตุ้นให้สมองส่วนนี้ทำงานในช่วงเวลาที่จำเพาะทุกๆ วันจะช่วยทำให้ระบบวงจรดังกล่าวนั้นกลับมาทำงานตามปกติและช่วยลดอาการที่เกิดขึ้นได้
การรักษาวิธีนี้ทำได้โดยการนั่งใกล้ๆ กับสิ่งที่เรียกว่า light box วันละ 30 นาที โดยมักจะเป็นในช่วงที่เพิ่งตื่นนอน กล่องนี้จะให้แสงความเข้มข้นขนาด 10,000 ลักซ์ซึ่งเข้มข้นมากกว่าแสงภายในอาคารปกติถึง 100 เท่า ในขณะที่ในวันที่มีแสงแดดจ้า นั้นจะมีความเข้มข้นของแสงอยู่ที่ 50,000 ลักซ์หรือมากกว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวคุณจะต้องลืมตาแต่อย่ามองเข้าไปที่แสงโดยตรง หลายๆ คนในช่วงเวลาดังกล่าวในการอ่านหนังสือพิมพ์ หนังสือ หรือนิตยสาร หรือทำงาน
ถึงแม้ว่าการรักษาวิธีนี้นั้นจะมีประสิทธิภาพเทียบเท่าการใช้ยาต้านเศร้า แต่ก็ไม่ใช่วิธีการรักษาที่ใช้ได้กับทุกคน บางคนต้องการแสงที่จ้ากว่านี้ ในขณะที่หลายคนอาจจะไม่สามารถทนแสงที่จ้าได้เช่นผู้ป่วยโรคอารมณ์สองขั้วเป็นต้น เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดอาการได้ และถึงแม้ว่าวิธีนี้ทำให้มีความเสี่ยงที่ตาจะได้รับอันตรายจากแสงที่จ้าได้ต่ำ แต่ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน (ซึ่งมีการทำลายที่จอรับภาพอยู่เดิม) หรือเป็นโรคเกี่ยวกับตาอยู่เดิม ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะเริ่มใช้วิธีนี้ในการรักษา
ในปัจจุบัน นักวิจัยมีความพยายามในการค้นหาวิธีที่จะทำให้วิธีนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นการสร้าง light box ที่จะเริ่มทำงานเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก แล้วค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นของแสงจากมืดขึ้นเป็น 300 ลักซ์ หรืออาจจะใช้แสงสีฟ้าที่มีความเข้มต่ำ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพต่อจอรับภาพได้ดีกว่าการใช้แสงขาว
วางแผนการรักษา
ในปัจจุบัน แพทย์มักจะแนะนำให้ผู้ป่วยโรคนี้ทดลองใช้แสงในการรักษาในช่วงหลังตื่นนอน ถ้าหากว่าวิธีนี้ไม่ได้ผลหรือทำให้เกิดข้างเคียง จึงค่อยเปลี่ยนมาใช้ยาต้านเศร้าหรือการใช้แสงวิธีอื่น
ถึงแม้ว่าการรักษาด้วยการใช้แสงนั้นจะค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็มีบางข้อที่ควรระวังหากคุณต้องการทดลองรักษาด้วยวิธีนี้
- คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยที่แน่ชัดก่อนที่จะเริ่มการรักษา เนื่องจากการตรวจว่าคุณเป็นโรคนี้จริงๆ หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ
- เลือกซื้อ light box ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน
- ก่อนที่จะซื้อ light box ควรสอบถามความยาวของคลื่นแสงที่ light box ใช้ก่อนเสมอ (ควรหลีกเลี่ยง light box ที่ปล่อยคลื่นแสงที่มีความยาวในระดับที่ทำให้เป็นอันตรายได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนท์ที่ไม่มีคลื่นแสงของรังสี ultraviolet
- อีกวิธีหนึ่งที่จะตรวจสอบว่าผลิตภัฑณ์นี้จะเหมาะสำหรับการใช้ในการรักษาหรือไม่นั้นก็คือสอบถามว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวนั้นมีการใช้งานในโรงพยาบาล คลินิก หรืองานวิจัยหรือไม่
ท้ายที่สุดนี้ควรทราบว่าอาการซึมเศร้า และโรคซึมเศร้าตามฤดูกาลนี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุและมีหลายวิธีที่สามารถใช้ในการรักษาได้ ควรพิจารณาทางเลือกในการรักษาจากแพทย์ก่อนเสมอและติดตามอาการเป็นระยะ