กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
พญ.รุจิรา เทียบเทียม
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
พญ.รุจิรา เทียบเทียม

รักษาโรคภูมิแพ้ด้วยการฉีดวัคซีนเป็นอย่างไร

รู้จักวิธีบรรเทาอาการภูมิแพ้โดยการฉีดวัคซีน และข้อควรระวังจากการใช้วัคซีน
เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 9 เม.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
รักษาโรคภูมิแพ้ด้วยการฉีดวัคซีนเป็นอย่างไร

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • วัคซีนภูมิแพ้ คือ สารก่อภูมิแพ้ที่ถูกฉีดเข้าใต้ผิวหนังผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ เพื่อให้อาการภูมิแพ้ค่อยๆ ทุเลาลง โดยใช้ระยะเวลารักษาประมาณ 3-5 ปี
  • ความถี่ของการรับวัคซีนแต่ละครั้งจะเริ่มที่ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ จนเมื่ออาการภูมิแพ้ดีขึ้น แพทย์จะทิ้งห่างระยะเวลาในการฉีดให้นานขึ้น เช่น จาก 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็น 1 ครั้งต่อ 2-3 สัปดาห์ และเปลี่ยนเป็น 1 ครั้งต่อ 1 เดือน
  • ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ที่อาการยังไม่ดีขึ้นถึงแม้จะรับวัคซีนภูมิแพ้ครบแล้ว อาจต้องยังรับวัคซีนอย่างต่อเนื่องไปอีกมากกว่า 1 ปี
  • วัคซีนภูมิแพ้สามารถทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น จาม ไอ น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก มีตุ่ม หรือผื่นแดงขึ้น อาการอาจรุนแรงได้ถึงขั้นช็อกจนหมดสติ สิ่งผู้ป่วยต้องทำหลังรับวัคซีน คือ ต้องสังเกตตนเองว่า มีอาการข้างเคียงอะไรเกิดขึ้นบ้าง 
  • คุณควรไปตรวจภูมิแพ้เพื่อหาว่า ร่างกายแพ้สารก่อภูมิแพ้ใดบ้าง จะได้หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอาการ รวมทั้งอาจปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการเข้ารับวัคซีนภูมิแพ้เพื่อป้องกัน (ดูแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้ และภาวะแพ้ได้ที่นี่)

การรักษาโรคภูมิแพ้โดยการฉีดวัคซีน (Immunotherapy) เป็นอีกวิธีบรรเทาอาการภูมิแพ้ให้ค่อยๆ หายไป ผ่านการฉีดสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในร่างกายผู้ป่วยทีละน้อย 

จุดเด่นอยู่ที่การรักษาโรคภูมิแพ้ซึ่งตรงตามสาเหตุการเกิด นั่นคือ เพื่อทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น และไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ที่แพ้อีก

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

นอกจากนี้วัคซีนภูมิแพ้ยังเป็นวิธีบรรเทาอาการโรคหอบหืดร่วมกับโรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้อีกด้วย

รู้จักวิธีการฉีดวัคซีนภูมิแพ้

การฉีดวัคซีนรักษาภูมิแพ้ เป็นการรักษาเพื่อลดอาการโรคภูมิแพ้ในระยะยาว มักใช้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้จมูก หอบหืดจากภูมิแพ้ เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ หรือผื่นแพ้จากแมลงสัตว์กัดต่อย

วัคซีนจะทำหน้าที่ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกาย ไวต่อสิ่งที่เราแพ้น้อยลงเรื่อยๆ ผลการของการฉีดจะอยู่ได้นาน แม้ว่าจะหยุดฉีดไปแล้ว

ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้สามารถมาเข้ารับวัคซีนภูมิแพ้ได้ตั้งแต่อายุ 5 ขวบขึ้นไป เพราะผู้ป่วยจะสามารถสื่อสารอาการ และหัดสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้แล้ว

โดยในช่วง 5-6 เดือนแรก แพทย์จะฉีดสารก่อภูมิแพ้ให้กับผู้ป่วยที่บริเวณแขนสัปดาห์ละประมาณ 1 ครั้ง สลับข้างกัน จากนั้นก็จะค่อยๆ เพิ่มปริมาณของวัคซีนทีละน้อย 

จนเมื่อปริมาณของวัคซีนที่ผู้ป่วยได้รับถึงระดับสูงสุดเท่าที่จะได้ฉีดได้แล้ว และอาการแพ้ไม่เกิดขึ้นอีก แพทย์ก็จะหยุดเพิ่มปริมาณวัคซีน

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

นอกจากจะหยุดเพิ่มปริมาณวัคซีนแล้ว แพทย์ยังจะเพิ่มระยะห่างจากการฉีดวัคซีนออกไปด้วย โดยจะให้ผู้ป่วยเข้ามารับวัคซีนทุกๆ 2-3 สัปดาห์ และหลังจากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นฉีดเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้ร่างกายรักษาระดับภูมิคุ้มกันไว้ในระดับที่สูงพอตลอด

ระยะเวลาที่ผู้ป่วยจะต้องมารับวัคซีนภูมิแพ้จะอยู่ที่ 3-5 ปี แล้วแต่แพทย์จะพิจารณาว่า ผู้ป่วยสามารถหยุดรับวัคซีนได้หรือยัง

ในผู้ป่วยที่อาการแพ้ยังคงอยู่ หรือผลของการรับวัคซีนยังไม่ดีพอ แพทย์อาจให้ผู้ป่วยเข้ามารับวัคซีนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปี หรือมากกว่านั้น แล้วแต่การพิจารณาของแพทย์ และอาการแพ้ของผู้ป่วย

จะรู้ได้อย่างไรว่า ควรฉีดวัคซีนรักษาภูมิแพ้หรือยัง

การฉีดวัคซีนรักษาภูมิแพ้ มักใช้กรณีที่เป็นโรคภูมิแพ้มานาน รักษาด้วยยาแล้วไม่ได้ผล ไม่อยากใช้ยานาน ไม่สามารถควบคุมสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ 

ทั้งนี้การรักษาด้วยวิธีนี้ มีราคาค่อนข้างสูง และต้องมีความสม่ำเสมอในการเข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นอย่างมาก

กลุ่มผู้ที่ควรเข้ารับวัคซีนภูมิแพ้

  • ผู้ป่วยโรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจ
  • ผู้ป่วยโรคเยื่อบุตาอักเสบตาภูมิแพ้ หรือผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ตา
  • ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ที่ไม่สามารถรักษาอาการแพ้ด้วยยาแก้แพ้ได้ หรือได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยา
  • ผู้ป่วยที่ต้องอยู่กับสารก่อภูมิแพ้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
  • ผู้ป่วยที่แพ้แมลง

ข้อควรระวังในการรับวัคซีนภูมิแพ้

ผู้ป่วยอาจมีอาการข้างเคียงจากวัคซีนภูมิแพ้ เช่นเดียวกับอาการแพ้ยาวัคซีนชนิดอื่นๆ ซึ่งอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นมักจะเป็นอาการแพ้ที่ผู้ป่วยเป็นอยู่แล้ว แต่อาจรุนแรงกว่า เช่น

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากวัคซีนภูมิแพ้มักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที หรือไม่กี่ชั่วโมงหลังจากรับวัคซีนแล้ว และยังสามารถลุกลามรุนแรงได้เหมือนอาการแพ้เฉียบพลุนรุนแรงได้ด้วย

หากคุณรู้สึกไม่สบายตัวและมีอาการแพ้อย่างหนักหลังจากรับวัคซีน ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วนที่สุด

นอกจากอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น ผู้ป่วยอาจต้องใช้เวลา 3-6 เดือนจึงจะเห็นผลลัพธ์ของวัคซีน และยังต้องฉีดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้อาการแพ้ดีขึ้นในระยะยาวด้วย

สิ่งที่ควรทำหลังจากรับวัคซีนภูมิแพ้

  • นั่งรอประมาณ 30 นาที- 1 ชั่วโมง เพื่อให้แพทย์สังเกตอาการว่า คุณมีอาการแพ้วัคซีนหรือไม่
  • อย่าเพิ่งออกกำลังกาย ยกของหนัก หรือทำงานหนักหลังรับวัคซีนอย่างน้อย 1 ชั่วโมงหลังรับวัคซีน
  • หลังรับวัคซีน 24 ชั่วโมง ให้สังเกตอาการบวม หรือผื่นแดงที่เกิดขึ้นแล้วจดบันทึกไว้ รวมถึงขนาด จำนวนของตุ่มแดง และอาการผิดปกติอื่นๆ ของร่างกายด้วย

หลังจากรับวัคซีนภูมิแพ้แล้ว ผู้ป่วยยังต้องดูแลร่างกายของตนเองให้แข็งแรงอย่างเหมาะสม เพื่อให้สุขภาพยังคงแข็งแรง ไม่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยโรคอื่นๆ โดยสามารถทำตามคำแนะนำเบื้องต้นต่อไปนี้

  • พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าปล่อยให้ร่างกายอ่อนเพลีย เพราะจะเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้มากกว่าเดิมได้
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ให้ร่างกายได้สารอาหารเพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงอย่าเข้าใกล้สารก่อภูมิแพ้ทุกชนิดที่คุณแพ้
  • ทำความสะอาดร่างกาย ที่อยู่อาศัย และสภาพแวดล้อมที่คุณต้องเข้าไปอยู่บ่อยๆ ให้สะอาดอยู่เสมอ
  • ดูแลสุขภาพจิตให้แจ่มใส ไม่เครียด และวิตกกังวลเกินไป

อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนเพื่อรักษาภูมิแพ้อาจไม่ได้ผลในกรณีดังต่อไปนี้

  • ปริมาณของวัคซีนเข้มข้น หรือแรงไม่เพียงพอ
  • ใช้ประเภทวัคซีนไม่ตรงกับสิ่งที่แพ้
  • แม้ว่าจะฉีดวัคซีนแล้ว ปริมาณสิ่งกระตุ้นการแพ้ในสิ่งแวดล้อมที่อาศัยอยู่ยังมีปริมาณสูง
  • สูบบุหรี่ หรือมีการใช้สารอื่นที่อาจกระตุ้นการเกิดภูมิแพ้ ที่ไม่ใช่สารที่ก่อให้เกิดการแพ้

คุณสามารถเข้าปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการรับวัคซีนภูมิแพ้ เพื่อตรวจว่า ร่างกายสามารถรับวัคซีนได้อย่างไรบ้าง หรืออาจเป็นการทดสอบภูมิแพ้ เพื่อที่จะได้นำผลการทดสอบไปปรึกษากับแพทย์ เพื่อรับวัคซีนภูมิแพ้ที่เหมาะสมต่อไป

ดูแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้ และภาวะแพ้ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัพเดทแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


4 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Adrian Young-Yuen Wu, Immunotherapy - Vaccines for allergic diseases, J Thorac Dis. 2012 Apr 1; 4(2): 198–202 (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3378232/), 1 April 2020.
ALLERGY SHOTS (IMMUNOTHERAPY), American academy of allergy asthma & Immunology, 2020 (https://www.aaaai.org/conditions-and-treatments/library/allergy-library/allergy-shots-(immunotherapy)), 1 April 2020.
โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์, วัคซีนภูมิแพ้ ทางเลือกของคนขี้แพ้ (Immunotherapy) (http://www.siphhospital.com/th/news/article/share/457), 20 มีนาคม 2563.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป