อาการท้องผูกถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพที่มีคนจำนวนไม่น้อยกำลังเผชิญ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณมีอาการดังกล่าว เช่น ความผันผวนของฮอร์โมน การทานอาหาร ความเครียด การนอน หรือแม้แต่การเดินทาง แต่นอกจากคุณจะพึ่งยาระบายที่มีขายตามร้านขายยาทั่วไปแล้ว มันก็ยังมีหลากตัวช่วยจากธรรมชาติที่สามารถทำให้คุณถ่ายได้คล่องมากขึ้น แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เราลองมาดูพร้อมกันเลยค่ะ
1. น้ำ
การหมั่นเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกายโดยการดื่มน้ำ ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อร่างกายโดยรวม และมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารเช่นกัน ทั้งนี้ยิ่งอุจจาระติดค้างอยู่ในลำไส้นานเท่าไร มันก็จะยิ่งทำให้น้ำถูกดูดกลับนานขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้อุจจาระของคุณมีลักษณะแข็งได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม การดื่มน้ำจะช่วยทำให้อุจจาระนุ่มลง และกระตุ้นให้ลำไส้ขับของเสียออกมาง่ายขึ้นค่ะ
2. กรีกโยเกิร์ต
โยเกิร์ต และโปรไบโอติกชนิดอื่นๆ ถือเป็นสิ่งที่เป็นมิตรต่อลำไส้ และระบบขับถ่ายค่ะ ไม่ว่าคุณจะท้องเสียหรือท้องผูก โปรไบโอติกก็สามารถช่วยลำไส้ได้ เพราะมันจะทำให้แบคทีเรียชนิดดีเพิ่มขึ้น โดยจะไปทดแทนแบคทีเรียชนิดไม่ดีที่เป็นต้นเหตุของอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด และการเปลี่ยนแปลงของอุจจาระ
3. ผักใบเขียว
ผักใบเขียวอย่างผักโขม ผักเคล และผักกะหล่ำถือเป็นแหล่งของไฟเบอร์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อระบบขับถ่าย อย่างไรก็ดี ไฟเบอร์ช่วยกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัว ทำให้คุณขับถ่ายได้ง่ายขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น แมคนีเซียมที่พบได้มากในผักใบเขียวยังช่วยให้อุจจาระนุ่มลงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม คนส่วนมากทานไฟเบอร์ไม่ถึงปริมาณที่แนะนำต่อวัน ซึ่งมีค่าประมาณ 25 กรัม หากคุณกำลังเผชิญปัญหาท้องผูกอยู่ล่ะก็ การทานผักใบเขียวสามารถช่วยคุณได้ค่ะ
4. ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติที่นิยมนำมาใช้รักษาผิวไหม้แดด หรือใส่ในผลิตภัณฑ์เสริมความงาม แต่คุณรู้ไหมว่า ว่านหางจระเข้ก็มีสรรพคุณช่วยรับมือกับปัญหาท้องผูกได้เช่นกัน โดยมันจะทำให้อุจจาระมีความลื่นมากกว่าเดิม และออกมาจากลำไส้ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้สารประกอบที่พบในว่านหางจระเข้ที่มีชื่อว่า แอนทราควิโนน (Anthraquinones) มีคุณสมบัติช่วยให้ร่างกายผลิตเมือกออกมามากขึ้น และเพิ่มการบีบตัวของกล้ามเนื้อ เพื่อให้อาหารเคลื่อนผ่านทางเดินอาหารได้สะดวกขึ้นค่ะ
5. เมล็ดเจีย
เมล็ดเจียเป็นสุดยอดธัญพืชที่มีสารพัดประโยชน์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ มันสามารถช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้ค่ะ เมื่อเมล็ดเจียที่เราทานเข้าไปผสมกับน้ำในร่างกาย มันก็จะเกิดการขยายตัว และมีลักษณะนุ่มเหมือนเยลลี ทำให้อุจจาระเคลื่อนออกจากลำไส้ง่ายขึ้น ซึ่งเมล็ดเจีย 1 ออนซ์ มีไฟเบอร์มากถึง 10 กรัม ทำให้มันเป็นอาหารที่เหมะสำหรับคนที่กำลังท้องผูกอย่างไม่ต้องสงสัย
6. เมล็ดแฟล็กซ์
จากข้อมูลของ USDA มีการระบุว่า เมล็ดแฟล็กซ์ 1 ช้อนโต๊ะมีไฟเบอร์มากเกือบ 3 กรัม อีกทั้งยังอุดมไปด้วยธาตุแมคนีเซียม ซึ่งล้วนแต่ช่วยกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวค่ะ นอกจากนี้เมล็ดแฟล็กซ์ยังมีสารประกอบที่มีชื่อว่า มิวซิเลจ (Mucilage) ที่จะช่วยเคลือบระบบย่อยอาหารของคุณ ทำให้การขับถ่ายดำเนินไปอย่างราบรื่นมากขึ้น
7. ผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง
หากคุณมักมีอาการท้องอืด หรือรู้สึกแน่นท้องหลังจากทานผักใบเขียว แอปเปิ้ล หรือลูกแพร คุณก็อาจหันมาทานผลไม้ตระกูลเบอร์รีแทนก็ได้ค่ะ เพราะมันก็มีไฟเบอร์มากไม่แพ้กัน และไม่ทำให้เกิดก๊าซเหมือนกับอาหารที่เรากล่าวไป ยิ่งไปกว่านั้น เบอร์รียังมีสารต้านการอักเสบที่จะช่วยปลอบปะโลมระบบทางเดินอาหารค่ะ
8. น้ำมัน
การทานน้ำมันมะกอก น้ำมันมินิรอล น้ำมันเมล็กแฟล็กซ์ หรือน้ำมันละหุ่งเพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยหล่อลื่นลำไส้ได้ เพียงแค่คุณทานน้ำมันดังกล่าว 1 ช้อนโต๊ะ มันก็จะทำให้อุจจาระนุ่ม และมีความลื่นมากกว่าเดิม ส่งผลให้คุณไม่รู้สึกเจ็บขณะเบ่งค่ะ แต่ถ้าการทานน้ำมันเป็นชอททำให้คุณรู้สึกคลื่นไส้ คุณก็อาจใส่ในอาหาร หรือนำมาราดสลัดก็ได้ค่ะ แม้ว่ามันจะเป็นยาระบายจากธรรมชาติที่ยอดเยี่ยม แต่คุณอาจต้องระวังสักเล็กน้อย เพราะน้ำมัน 1 ช้อน มีประมาณ 120 แคลอรี
สำหรับใครที่กำลังทรมานกับอาการท้องผูก ถ้าคุณอยากรักษาตัวด้วยวิธีธรรมชาติ อาหารที่เราแนะนำข้างต้นก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี รับรองว่าคราวนี้คุณจะกลับมาถ่ายได้คล่องปรื๊ดเลย