อาการที่สำคัญของกลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุขคือความเจ็บปวด หรือเหมือนมีอะไรไต่ขาจนทำต้องให้ขยับขาหรืออาจเกิดการกระตุกโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยโรคนี้ส่วนใหญ่นั้นจะไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน แม้จะมีบางส่วนที่เกิดจากโรคประจำตัวอื่น ๆ ก็ตาม
อาการของกลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุข
กลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุขมักจะทำให้เกิดแรงกระตุ้นอย่างรุนแรงที่จะขยับขาและทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดไม่สบายในขาของคุณอีกด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ความรู้สึกนี้อาจลามมาส่งผลต่อบริเวณแขน ทรวงอก และใบหน้าเช่นกัน อาการเหล่านี้มักได้รับการอธิบายว่าเป็น:
- ความรู้สึกเหมือนเป็นเหน็บ เกิดอาการปวดแสบ คันหรือปวดตุบ ๆ
- รู้สึกเหมือนมีอะไรไต่หรือคลานตามขา
- รู้สึกเหมือนเกิดฟองฟู่ภายในหลอดเลือดตามขา
- ความรู้สึกเจ็บปวดคล้ายตะคริวที่ขาโดยเฉพาะในบริเวณน่อง
ความรู้สึกไม่สบายเหล่านี้สามารถรุนแรงได้ตั้งแต่น้อยไปจนรุนแรงมาก และมักจะแย่ลงในตอนเย็นและในช่วงกลางคืน อาการมักจะหายไปจากการขยับขาหรือถูขาของคุณ
ผู้ป่วยบางคนพบอาการเป็นครั้งคราว ในขณะที่ผู้ป่วยคนอื่น ๆ เกิดอาการเหล่านี้ทุกวัน คุณอาจรู้สึกลำบากในการนั่งเป็นเวลานาน เช่น ในการเดินทางด้วยรถยนต์ หรือรถไฟเป็นระยะเวลานาน
ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยกลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุขนั้นยังสามารถพบอาการปวดหลังส่วนล่างเป็นระยะ ๆ ได้อีกด้วย
การเคลื่อนไหวของแขนขาเป็นระยะ ๆ ระหว่างการนอนหลับ (Periodic limp movements in sleep: PLMS)
80% ของผู้ป่วยกลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุขยังเกิดการเคลื่อนไหว หรือการกระตุกของแขนขาเป็นระยะ ๆ ในระหว่างการนอนหลับหรืออาจเรียกย่อว่าภาวะ PLMS
หากคุณมีภาวะดังกล่าวร่วมด้วย ขาของคุณจะกระตุกหรือขยับโดยไม่สามารถควบคุมได้โดยปกติจะเกิดขึ้นตอนกลางคืนในขณะที่คุณหลับ การเคลื่อนไหวจะเป็นระยะสั้น ๆ และเกิดซ้ำ ๆ และมักเกิดขึ้นทุก ๆ 10 ถึง 60 วินาที
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การกระตุกของแขนหรือขาดังกล่าวสามารถรุนแรงพอที่จะปลุกทั้งคุณและคู่ของคุณให้ตื่นขึ้นมากลางดึกได้ การเคลื่อนไหวของขาที่ไม่สามารถควบคุมได้อาจเกิดขึ้นในช่วงที่คุณตื่นนอนและพักผ่อนได้ด้วยเช่นกัน
สาเหตุของกลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุข
ในหลายกรณีไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเคลื่อนไหวหรือการกระตุกขาดังกล่าว
ซึ่งกรณีนี้จะเรียกว่า กลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุขชนิดไม่ทราบสาเหตุ หรือกลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุขปฐมภูมิ (Idiopathic / Primary restless legs syndrome)
การวิจัยที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่ายีนบางตัวมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคดังกล่าวและสามารถสืบทอดต่อกันในครอบครัว ในกรณีนี้อาการของผู้ป่วยมักเกิดขึ้นก่อนอายุจะครบ 40 ปี
โดปามีน
มีหลักฐานที่บ่งว่ากลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุขนั้นเกี่ยวข้องกับปัญหาของสมองส่วนหนึ่งที่เรียกว่าปมประสาทฐานหรือเบซัลแกลงเกีย (basal ganglia) ปมประสาทนี้ใช้สารเคมีสื่อประสาท (neurotransmitter) ชนิดหนึ่งที่เรียกว่าโดปามีนเพื่อช่วยควบคุมกิจกรรมและการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อต่าง ๆ
สารโดปามีนทำหน้าที่เป็นตัวส่งข้อความระหว่างสมองและระบบประสาทเพื่อช่วยให้สมองสามารถควบคุมและประสานการเคลื่อนไหวทุกอย่างในร่างกาย หากเซลล์ประสาทเกิดความเสียหายปริมาณของโดปามีนในสมองก็จะลดลง ซึ่งทำให้กล้ามเนื้อเกิดอาการกระตุกและการเคลื่อนไหวที่ไม่ได้ตั้งใจและไม่สามารถควบคุมได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ระดับโดปามีนโดยปกติจะลดลงในช่วงท้ายของวันเช่นตอนเย็นหรือตอนกลางคืนจึงเป็นเหตุผลอธิบายสำหรับคำถามว่าทำไมอาการของโรคดังกล่าวจึงแย่ลงในช่วงตอนเย็นและตอนกลางคืน
ภาวะทางการแพทย์ที่มีอยู่
อาการขาอยู่ไม่สุขในบางครั้งอาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากเป็นภาวะแทรกซ้อนของภาวะสุขภาพอื่น ๆ หรืออาจเป็นผลมาจากปัจจัยด้านสุขภาพอื่น ๆ โดยจะเรียกว่าเป็นกลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุขทุติยภูมิ หรือกลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุขรอง
คุณสามารถเกิดอาการขาอยู่ไม่สุขขึ้นได้หากคุณมีภาวะดังนี้:
โรคโลหิตจางจากภาวะขาดธาตุเหล็ก - ระดับธาตุเหล็กในเลือดต่ำอาจนำไปสู่ระดับของโดปามีนที่ลดลงทำให้เกิดอาการขาขยับเองหรือกระตุกตามมาได้
มีความผิดปกติเรื้อรัง เช่น โรคไตเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคพาร์กินสัน โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคต่อมไทรอยด์ทำงานต่ำ หรือโรคไฟโบรมัยอัลเจีย
กำลังตั้งครรภ์ - โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสัปดาห์ที่ 27 จนถึงก่อนคลอดสามารถเกิดอาการขาขยับหรือกระตุกขึ้นได้และในกรณีส่วนใหญ่อาการจะหายไปภายในสี่สัปดาห์หลังคลอด
สิ่งกระตุ้นอาการ (trigger)
มีสิ่งกระตุ้นหลายอย่างที่ไม่ก่อให้เกิดอาการขาขยับหรือกระตุกโดยตรง แต่สามารถทำให้อาการแย่ลง ได้แก่ยาชนิดต่าง ๆ เช่น:
- ยากล่อมประสาทบางตัว
- ยาสำหรับโรคจิตเวช
- ยากลุ่มลิเทียม - ซึ่งใช้ในการรักษาอาการไบโพลาร์
- ยากลุ่ม calcium channel blockers - ซึ่งใช้ในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ยาแก้แพ้ชนิดยับยั้งฮิสตามีนบางตัว
- ยา metoclopramide - ซึ่งใช้ในการบรรเทาอาการคลื่นไส้
สิ่งกระตุ้นอาการที่เป็นไปได้อื่น ๆ ได้แก่ :
- การสูบบุหรี่อย่างหนัก หรือการดื่มคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ปริมาณมาก
- มีน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน
- ความเครียด
- ขาดการออกกำลังกาย