หญิงตั้งครรภ์ และเป็นโรคภูมิแพ้อาจมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้ยาแก้อาการภูมิแพ้ และพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่จำเป็นต่ออาการเพราะกลัวจะส่งผลกระทบต่อลูกน้อย แต่ในบางกรณี ยารักษาก็มีความจำเป็นต่อการควบคุมอาการภูมิแพ้ไม่น้อย และไม่สามารถหยุดยาได้
เรามาดูกันว่ามียาอะไรบ้างที่ปลอดภัยสำหรับตัวคุณ และยาอะไรที่ควรหลีกเลี่ยงระหว่างตั้งครรภ์ แล้วมีวิธีสังเกตอย่างไร
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
การวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ระหว่างตั้งครรภ์
คุณสามารถตรวจโรคภูมิแพ้ระหว่างตั้งครรภ์ได้ด้วยวิธีตรวจผิวหนัง หรือตรวจเลือด (Rast test) ส่วนการตรวจโดยการสะกิดผิวหนัง (Skin prick test) ซึ่งมักนิยมใช้เป็นวิธีตรวจโรคภูมิแพ้ในคนปกติมักไม่นิยมใช้กันในหญิงตั้งครรภ์ เพราะยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรงระหว่างตั้งครรภ์ได้
ซึ่งผลกระทบจากอาการภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรงขณะตั้งครรภ์นั้น จะทำให้คุณความดันโลหิตลดต่ำลง และระดับออกซิเจนที่ไปเลี้ยงมดลูกก็จะลดลงตามไปด้วยจนเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์
ดังนั้นแพทย์มักจะยืดเวลาการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังออกไปก่อนในระหว่างที่ตั้งครรภ์ จึงทำให้การตรวจ Rast Test เป็นวิธีที่ปลอดภัย และเหมาะสมกับหญิงตั้งครรภ์กว่า
ความปลอดภัยของยาแก้ภูมิแพ้ที่ใช้ในช่วงตั้งครรภ์
ในปัจจุบัน ยังไม่มียาประเภทไหนที่ปลอดภัย 100% สำหรับใช้ในหญิงตั้งครรภ์ ดังนั้นองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (Food and Drug Administration: FDA) จึงมีการกำหนดประเภทของความเสี่ยงในยานั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของการรักษาในระหว่างตั้งครรภ์ ดังนี้
- ยาสำหรับการตั้งครรภ์ประเภทเอ: เป็นยาที่มีผลการศึกษากับสตรีในแง่บวก โดยระบุว่ามีความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ช่วง 3 เดือนแรก ยาในประเภทนี้มีอยู่ค่อนข้างน้อย และไม่มียารักษาโรคหอบถูกจัดไว้ในประเภทนี้
- ยาสำหรับการตั้งครรภ์ประเภทบี: เป็นยามีผลการศึกษาว่าปลอดภัยสำหรับสัตว์ที่มีครรภ์ แต่ยังไม่มีการศึกษาว่าปลอดภัยต่อมนุษย์โดยตรง
- ยาสำหรับการตั้งครรภ์ประเภทซี: เป็นยาที่มีผลการศึกษาพบว่า ทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ยังไม่มีการศึกษาในมนุษย์ หากจะใช้ก็ควรอยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์ว่า ได้รับประโยชน์จากยามากน้อยแค่ไหน เมื่อเทียบกับความเสี่ยง
- ยาสำหรับการตั้งครรภ์ประเภทดี: เป็นยาที่มีความเสี่ยงในการก่อความผิดปกติต่อทารกในครรภ์มนุษย์ จึงมักเป็นยาที่ถูกใช้เพื่อช่วยชีวิตมารดา หรือเพื่อรักษาโรคที่รุนแรงซึ่งยาที่ปลอดภัยมากกว่าไม่สามารถรักษาได้
- ยาสำหรับการตั้งครรภ์ประเภทเอ็กซ์: เป็นยาที่มีการศึกษาพบว่า เป็นอันตรายต่อทารก และทำให้เกิดความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด (Birth defect) ได้ ไม่ควรใช้ในหญิงตั้งครรภ์เด็ดขาด
ก่อนที่จะรับประทานยาใดๆ ในระหว่างที่ตั้งครรภ์ คุณควรปรึกษากับแพทย์เกี่ยวกับประโยชน์ และความเสี่ยงของตัวยาก่อนทุกครั้ง โดยควรรับประทานยานั้นก็ต่อเมื่อฤทธิ์ของมันมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงเท่านั้น
ยารักษาโรคภูมิแพ้ระหว่างตั้งครรภ์
ยาที่คุณอาจได้รับเพื่อรักษาโรคภูมิแพ้ในระหว่างตั้งครรภ์ จะมีดังต่อไปนี้
ตรวจภูมิแพ้และภาวะแพ้วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,376 บาท ลดสูงสุด 69%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
1. น้ำเกลือพ่นจมูก (Nasal saline)
เพราะโรคภูมิแพ้ระหว่างตั้งครรภ์มักจะไม่ตอบสนองต่อยาแก้แพ้ หรือยาพ่นจมูก แต่กลับต่อสนองต่อน้ำเกลือพ่นจมูกแทน ซึ่งเป็นน้ำเกลือที่ปลอดภัยในการใช้ระหว่างตั้งครรภ์ สามารถซื้อได้ตามร้านขายยา มีราคาไม่แพง และใช้ได้บ่อยตามอาการได้เลย
วิธีการใช้น้ำเกลือพ่นจมูกคือ ให้ฉีดข้างละ 3-6 ครั้งเข้าไปในโพรงจมูกนาน 30 วินาที แล้วค่อยสั่งน้ำเกลือออกมาทางจมูก
2. ยาแก้แพ้ (Antihistamines)
ซึ่งได้แก่
- ยาแก้แพ้สูตรเก่าประเภทบีอย่าง ยาคลอร์เฟนิรามีน (Chlorpheniramine) และยาไตรเพเลนนามีน (Tripelennamine)
- ยาลอราทาดีน (Loradine) เป็นยาแก้แพ้กลุ่มใหม่ที่สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์
- ยาเซทิริซิน (Cetirizine) เป็นยาประเภทเช่นเดียวกับยาแก้แพ้สูตรเก่า
3. ยาแก้คัดจมูก (Decongestants)
ได้แก่ ฟีนิลเอฟรีน (Phenylephrine) เป็นยาประเภทซีที่ใช้สำหรับแก้อาการคัดจมูกระหว่างตั้งครรภ์ มีขายหลายยี่ห้อตามร้ายขายยาทั่วไป แต่ไม่ควรรับประทานในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เพราะมีความเสี่ยงจะทำให้เกิดความพิการโดยกำเนิดของผนังหน้าท้อง
4. ยาพ่นจมูก (Medicated nasal sprays)
ได้แก่ ยาพ่นจมูกโครโมลิน (Cromolyn) เป็นยาใช้สำหรับผู้เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ และกำลังตั้งครรภ์ แต่ยังไม่มีจำหน่ายในไทย ยานี้จัดเป็นยาประเภทบี สามารถหาซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์
แต่หากผู้ป่วยใช้ยาแล้วยังอาการไม่ดีขึ้น ก็อาจต้องเปลี่ยนเป็นยาใช้ยาพ่นจมูกชนิดสเตียรอยด์บูเดโซไนด์ (Budesonide) ซึ่งเป็นยาในกลุ่ม B สำหรับรักษาหญิงมีครรภ์เช่นเดียวกัน และเป็นยาพ่นจมูกชนิดสเตียรอยด์ที่เป็นทางเลือกที่ดีระหว่างตั้งครรภ์ สามารถซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์
5. ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)
เป็นวิธีการรักษาโดยการฉีดยารักษาภูมิแพ้ (Allergy shots) ซึ่งสามารถฉีดได้เรื่อยๆ ระหว่างตั้งครรภ์ แต่ไม่แนะนำให้เริ่มรักษาโรคภูมิแพ้ด้วยวิธีนี้ในหญิงตั้งครรภ์ เพราะอาจเกิดอาการภูมิแพ้เฉียบพลันรุนแรงได้ และจะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์
ถึงแม้ยาบางชนิดจะปลอดภัยต่อหญิงตั้งครรภ์อยู่แล้ว แต่คุณก็จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งว่า ยาที่คุณจะรับเข้าร่างกายเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยนั้น มีความปลอดภัยต่อสภาพร่างกาย และทารกในครรภ์หรือไม่
ดูแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้ และภาวะแพ้ การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัพเดทแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android