เคยไหมกับการรู้สึกแน่นท้องหรืออึดอัดหลังทานอาหาร? โดยทั่วไปแล้ว อาการท้องอืดที่เกิดขึ้นหลังทานอาหารไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลและอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว แต่มันก็จะทำให้เรารู้สึกว่าท้องบวมหรือไม่สบายตัว รวมถึงอาจมีอาการอื่นๆ เกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น ผายลม เรอ ฯลฯ ส่งผลให้คุณรู้สึกหงุดหงิดใจไปตลอดวัน แต่ก่อนที่เราจะไปดูวิธีป้องกันอาการท้องอืดหลังทานอาหาร เราลองมาดูสาเหตุกันก่อนดีกว่าค่ะ
สาเหตุ
อาการท้องอืดหลังทานอาหารเป็นเรื่องปกติ ซึ่งการเลี่ยงอาหารบางชนิดสามารถช่วยป้องกันได้ ทั้งนี้อาการท้องอืดเกิดขึ้นที่บริเวณท้อง ซึ่งคุณจะมีอาการดังกล่าวเมื่อมีอากาศหรือก๊าซปริมาณมากก่อตัวขึ้นในทางเดินอาหาร อย่างไรก็ดี การทานอาหารเป็นสาเหตุพื้นฐานของอาการท้องอืด เพราะเมื่อร่างกายย่อยอาหาร มันก็จะผลิตก๊าซออกมา นอกจากนี้คนยังกลืนอากาศเมื่อทานอาหารหรือดื่มน้ำ ทำให้อากาศเข้าไปในทางเดินอาหาร อย่างไรก็ดี การผายลมและการเรอสามารถช่วยลดปริมาณก๊าซและอากาศในลำไส้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
วิธีป้องกัน
1.อย่าทานอาหารที่มีไฟเบอร์มากเกินไป
ไฟเบอร์เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่พบได้ในพืช ซึ่งร่างกายไม่สามารถย่อยได้ ทั้งนี้ไฟเบอร์มีบทบาทสำคัญต่อร่างกาย เช่น ช่วยควบคุมระดับของน้ำตาลในเลือดและการทานน้ำตาล อย่างไรก็ตาม อาหารที่มีไฟเบอร์สูงสามารถทำให้ร่างกายของบางคนผลิตก๊าซออกมามากเกินไป ซึ่งมีงานวิจัยพบว่า การทานอาหารที่มีไฟเบอร์น้อยลงช่วยบรรเทาอาการท้องอืดในคนที่มีอาการท้องผูกชนิดที่ไม่ทราบสาเหตุ ตัวอย่างของอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ถั่วฝัก เลนทิล ผลไม้ ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ด ถั่วสปริตพี บร็อกโคลี กะหล่ำดาว ฯลฯ
2.ร่างกายไม่สามารถย่อยอาหารบางชนิดหรือแพ้อาหาร
อาการท้องผูกถือเป็นอาการทั่วไปของคนที่ร่างกายไม่สามารถย่อยอาหารบางประเภทหรือมีอาการแพ้อาหาร ซึ่งมันสามารถทำให้ร่างกายผลิตก๊าซออกมามากเกินไป หรือมีก๊าซติดอยู่ในทางเดินอาหาร ซึ่งอาหารที่มีแนวโน้มว่าทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวคือ ข้าวสาลีหรือกลูเตน
3.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง
ไขมันเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ ซึ่งร่างกายย่อยไขมันอย่างช้าๆ เพราะมันต้องใช้เวลาเคลื่อนผ่านระบบย่อยอาหารนานกว่าอาหารชนิดอื่นๆ และนั่นก็สามารถทำให้อาหารตกค้างอยู่ในท้อง ส่งผลให้บางคนมีอาการท้องอืด สำหรับคนที่เผชิญปัญหาดังกล่าว การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงอาจช่วยลดอาการท้องอืดได้
4.ทานอาหารหรือดื่มน้ำให้ช้าลง
การทานอาหารหรือน้ำเร็วเกินไปสามารถทำให้เรากลืนอากาศเข้าไปในร่างกายมากขึ้น และนั่นก็จะทำให้ก๊าซก่อตัวในทางเดินอาหารได้ในที่สุด ซึ่งการทานอาหารให้ช้าลงก็อาจช่วยบรรเทาปัญหาได้ค่ะ
5.หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม
น้ำอัดลมมีคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซที่สามารถก่อตัวขึ้นในทางเดินอาหารและทำให้เรามีอาการท้องอืด ซึ่งการทานเครื่องดื่มประเภทนี้สูตรไดเอทก็สามารถทำให้เรามีอาการดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ดี การดื่มน้ำเปล่าถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอาการท้องอืด
6.ขิง
ขิงเป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่นำมาใช้รักษาปัญหาที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ทั้งนี้ขิงมีสารที่ช่วยขับก๊าซส่วนเกินออกมาจากทางเดินอาหาร นอกจากนี้ยังมี Review เมื่อปี ค.ศ.2013 พบว่า ขิงสามารถช่วยรับมือกับปัญหาที่เกี่ยวกับทางเดินอาหาร ตัวอย่างเช่น อาการท้องอืด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
7.ออกกำลังกายเบาๆ
การออกกำลังกายเบาๆ หลังทานอาหารอย่างการเดิน อาจช่วยบรรเทาอาการท้องอืดได้ในบางคน ซึ่งมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า การออกกำลังกายเบาๆ สามารถช่วยกำจัดก๊าซออกจากทางเดินอาหาร และช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ดังนั้นใครที่รู้ตัวว่ามักมีอาการท้องอืดหลังทานอาหาร การออกไปเดินรับลมนอกบ้านก็อาจช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการดังกล่าวได้
8.รักษากรดไหลย้อน
กรดไหลย้อนเกิดขึ้นเมื่อกรดจากกระเพาะอาหารไหลกลับมายังคอ ซึ่งสามารถทำให้ผู้ป่วยรู้สึกแสบร้อน อย่างไรก็ดี กรดไหลย้อนถือเป็นสาเหตุทั่วไปของการมีอาการท้องผูก บางคนอาจพบว่าการรักษากรดไหลย้อนเป็นวิธีที่ช่วยลดอาการท้องอืดได้อย่างมีประสิทธิผล ซึ่งคุณสามารถรักษาโรคดังกล่าวโดยทานยาที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปอย่างยาลดกรด
อาการท้องอืดที่เกิดขึ้นหลังจากทานอาหารไม่ใช่เรื่องน่ากังวล แต่หากมีอาการอื่นๆ เกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ ท้องผูก ท้องเสีย อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ผิวระคายเคือง ฯลฯ คุณก็ควรไปพบแพทย์ เพราะมันอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ