ไกเนคอน เป็นยารักษาการติดเชื้อราในช่องคลอด ในรูปแบบยาเม็ดสอดช่องคลอด ผลิตโดยบริษัท Union Medical ประเทศไทย ตัวยาประกอบด้วยตัวยา 3 ชนิด คือ
- นิสเททิน (Nystatin)
- ไดไอโอโดไฮดรอดซีควิโนลีน (Diiodohydroxyquinoline)
- และเบนซาลโคเนียม คลอไรด์ (benzalkonium chloride)
นิสเททินเป็นยาต้านเชื้อรา ใช้การรักษาการติดเชื้อแคนดิด้าที่ผิวหนัง ได้แก่ ผื่นผ้าอ้อม ติดเชื้อแคนดิด้าในช่องปาก ติดเชื้อแคนดิด้าในลำคอ และการติดเชื้อราในช่องคลอด
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
นอกจากนี้ยังมีการใช้เพื่อป้องกันการติดเชื้อแคนดิด้าในผู้ป่วยกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1950 โดย Rachel Fuller Brown และ Elizabeth Lee Hazan และเป็นผู้ตั้งชื่อยานี้ว่านิสเททิน ยานิสเทตินจัดเป็นยาที่อยู่ในบัญชียาหลักขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) นิสเทตินสังเคราะห์ขึ้นจากแบคทีเรีย รือ Streptomyces noursei
ตัวอย่างยี่ห้อของยา Gynecon ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย
- บริษัท คอนติเนนเติล-ฟาร์ม จำกัด Gynecon ยาเหน็บช่องคลอด ประกอบด้วย Nystatin 100,000 IU + diiodohydroxyquinoline 100 มิลลิกรัม + benzalkonium 7 มิลลิกรัม
- บริษัท คอนติเนนเติล-ฟาร์ม จำกัด Gynecon T ยาเหน็บช่องคลอด ประกอบด้วย Nystatin 100,000 IU + diiodohydroxyquinoline 100 มิลลิกรัม + benzalkonium 7 มิลลิกรัม
โรค และอาการที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยานี้บรรเทา
- ข้อบ่งใช้สำหรับการติดเชื้อแคนดีด้าในช่องคลอด
กลไกการออกฤทธิ์ของยา Gynecon
กลไกการออกฤทธิ์ของยาคือ ไกเนคอน เป็นยาเตรียมสำหรับรักษาการติดเชื้อบริเวณช่องคลอด ประกอบด้วยตัวยาสำคัญ 3 ชนิด คือ นิสเททิน (Nystatin) จำนวน 100,000 หน่วย เบนซาลโคเนียม คลอไรด์ (Benzalkonium chloride) จำนวน 7 มิลลิกรัม และไดไอโอโดไฮดรอกซีควิน (Di-iodohydroxyquin) จำนวน 100 มิลลิกรัม
โดยนิสเททินมีฤทธิ์เป็นยาปฏิชีวนะ ออกฤทธิ์รบกวนคุณสมบัติการเลือกผ่านของผนังเซลล์โดยจับกับสเตียรอล โดยเฉพาะเออโกสเตียรอล (ergosterol) ในเยื่อหุ้มเซลล์ของเชื้อรา ทำให้เกิดการรั่วออกของส่วนประกอบภายบในเซลล์ นำไปสู่การตายของเซลล์
ข้อบ่งใช้ของยา Gynecon
ข้อบ่งใช้สำหรับการติดเชื้อแคนดีด้าในช่องคลอด ยาในรูปแบบชนิดยาเหน็บช่องคลอด ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ 100,000 ถึง 200,000 หน่วยต่อวัน (เทียบเท่ากับยา 1 ถึง 2 เม็ด) เหน็บเวลาก่อนนอน เป็นเวลา 14 วัน
ข้อควรระวังของการใช้ยา Gynecon
ข้อควรระวังในการใช้ยา Gynecon อาจมีดังต่อไปนี้
- ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่แพ้ยานิสเททิน (nystatin)
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยเด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร
ดังนั้นก่อนใช้ยาชนิดใด ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถึงความเหมาะสมก่อนเสมอ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา Gynecon
ยานี้อาจก่อให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์
นอกจากนี้อาการอันไม่พึงประสงค์ที่พบได้น้อย มีดังนี้
- ผื่นแดง
- ผื่นลมพิษ
- การแพ้ยาแบบ Steven-johnson
- หัวใจเต้นเร็ว
- หลอดลมหดตัว
- ใบหน้าบวม
- ปวดกล้ามเนื้อ
- ระคายเคืองผิวหนัง
หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ทันที
ข้อมูลการใช้ยา Gynecon ในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร
สำหรับการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ ยังไม่มีข้อมูลการจัดกลุ่มยาชนิดนี้
ประเภทของยาตามองค์การอาหารและยา ประเทศไทย
ยาจัดอยู่ในกลุ่มยาอันตราย จำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรชั้นหนึ่งเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น
ข้อมูลการเก็บรักษายา Gynecon
ยาในรูปแบบยาเม็ดยาครีมสำหรับทาช่องคลอดเก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส
สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลในการสั่งใช้ยา
เนื่องจากยา Gynecon จัดอยู่ในกลุ่มยาอันตราย จึงควรนำข้อมูลดังต่อไปนี้ไปแจ้งกับแพทย์หรือเภสัชกรด้วยทุกครั้ง
- แจ้งข้อมูลการใช้ยารักษาโรคประจำตัว ไม่ว่าจะเป็นยา อาหารเสริม วิตามิน สมุนไพร ที่เพิ่งรับประทานก่อนหน้านี้ ควรแจ้งให้ทราบทุกชนิด หากมียาประจำตัวจำนวนมาก ให้พกยาไปแสดงให้แพทย์หรือเภสัชกรตรวจสอบก่อนสั่งจ่ายยาใหม่ ไม่ให้เกิดอันตรกิริยาระหว่างยาที่จะได้รับใหม่และยาที่เดิมที่ผู้ป่วยใช้อยู่
- แจ้งประวัติการแพ้ยา หรืออาการแพ้ที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือแพ้อาหารชนิดใดอยู่ (เนื่องจากยาบางชนิดมีส่วนประกอบของไข่ขาว นม ยีสต์) อาการที่เกิดขึ้น เช่น อาการบวม เกิดผื่น หายใจลำบาก หรือให้นำบัตรแพ้ยา พกติดตัวและแสดงบัตรนี้แก่แพทย์และเภสัชกรก่อนเข้าใช้บริการสุขภาพทุกครั้ง
- แจ้งข้อมูลในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ หรือมีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เนื่องจากยาบางชนิดส่งผลอันตรายต่อเด็กในครรภ์ หรือสามารถขับออกทางน้ำนมได้ แพทย์หรือเภสัชกรอาจจัดยาทดแทนอื่นๆ เพื่อลดผลกระทบ
- แจ้งข้อมูลที่จะส่งผลต่อการรับประทานยา เช่น มีปัญหาการกลืนลำบาก มีปัญหาด้านการมองเห็นหรืออ่านฉลากยา วิธีการรับประทานยา เพื่อแพทย์หรือเภสัชกรจะได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง