จากที่เคยมีการเปรียบเทียบยาเม็ดคุมกำเนิดยี่ห้อซีราเซทกับยาฉีดคุมกำเนิดยี่ห้ออีนาฟ-150 ซึ่งเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยวกันไปแล้ว วันนี้ขอนำเอายาเม็ดคุมกำเนิดยี่ห้อเอ็กซ์ลูตอนมาเปรียบเทียบกับอีนาฟ-150 บ้างค่ะ ลองมาดูกันซิว่า ผลการเปรียบเทียบจะแตกต่างจากเดิมหรือไม่
รูปแบบและวิธีการใช้
ยาแต่ละเม็ด มีตัวยา
Lynestrenol 0.5 มิลลิกรัม
ยาแต่ละขวด มีตัวยา
Medroxyprogesterone acetate 150 มิลลิกรัม
ยาคุมเอ็กซ์ลูตอนแต่ละแผง จะประกอบด้วยเม็ดยาจำนวน 28 เม็ด ซึ่งแต่ละเม็ดจะมีตัวยาฮอร์โมน Lynestrenol 0.5 มิลลิกรัมเหมือนกันทุกเม็ดนะคะ ผู้ใช้ต้องรับประทานวันละ 1 เม็ดต่อเนื่องกันทุกวัน และต้องรับประทานตรงเวลาสม่ำเสมอ เพราะการรับประทานช้ากว่าเวลาปกติเกิน 3 ชั่วโมงจะทำให้ไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องค่ะ
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจหมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
กดยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยวจะไม่มีเม็ดแป้งหรือช่วงเว้นว่างให้ประจำเดือนมานะคะ เมื่อรับประทานหมดแผงแล้วก็ให้ต่อยาคุมแผงใหม่ได้เลย
ส่วนอีนาฟ-150 จะต้องมีการฉีดยาตามรอบทุก ๆ 3 เดือน ตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก (WHO) หรือ 13 สัปดาห์ ตามแนวทางของศูนย์ควบคุมโรค ประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. CDC)
เมื่อพิจารณาเรื่องของความสะดวกในการใช้ อีนาฟ-150 จึงเหนือกว่าเอ็กซ์ลูตอนมาก เพราะสามารถบริหารเพียง 1 ครั้งทุก ๆ 3 เดือน
ประสิทธิภาพ
มีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 – 9%
มีโอกาสตั้งครรภ์ 0.2 – 6%
แม้จะเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยวเหมือนกัน แต่ยาคุมชนิดฉีดมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากกว่า และมีโอกาสเกิดความผิดพลาดทางเทคนิคหรือการใช้ได้น้อยกว่ายาคุมชนิดเม็ดค่ะ
ดังนั้น ถ้ามีการใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสมเช่นเดียวกัน ผู้ที่ฉีดคุมกำเนิดอีนาฟ-150 จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยกว่าผู้ที่รับประทานยาคุมเอ็กซ์ลูตอนนะคะ
ผลข้างเคียง
- เลือดกะปริบกะปรอย ประจำเดือนไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือน : พบมาก
- สิว หน้ามัน ขนดก : พบปานกลาง
- ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม น้ำหนักเพิ่ม
- เลือดกะปริบกะปรอย ประจำเดือนไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือน : พบมาก
- สิว หน้ามัน ขนดก : พบน้อย
- ปวดศีรษะ น้ำหนักเพิ่ม ซึมเศร้า
- ภาวะกระดูกบาง (ชั่วคราว)
- กลับมามีไข่ตกได้ช้าหลังหยุดใช้
ผลข้างเคียงเกี่ยวกับการมีเลือดกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือน ถือเป็นผลข้างเคียงเด่นของยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว จึงพบได้กับทั้งผู้ใช้เอ็กซ์ลูตอนและอีนาฟ-150 อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบระยะเวลาการใช้เท่า ๆ กัน จะพบภาวะขาดประจำเดือนในผู้ใช้อีนาฟ-150 ได้มากกว่าเอ็กซ์ลูตอนนะคะ
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
กดแต่โปรเจสตินในยาคุมเอ็กซ์ลูตอนมีผลแอนโดรเจนปานกลาง จึงมีผลข้างเคียงในเรื่องสิว หน้ามัน และขนดก ได้มากกว่ายาคุมอีนาฟ-150 ที่โปรเจสตินมีผลแอนโดรเจนต่ำกว่าค่ะ
อาจพบอาการปวดศีรษะและการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักได้ในผู้ใช้ยาคุมทั้ง 2 กลุ่ม แต่มักไม่รุนแรง
และแม้ว่าการฉีดยาคุมชนิด 3 เดือนอาจส่งผลให้ความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลง แต่ก็สามารถเพิ่มกลับมาเป็นปกติได้หลังหยุดใช้ โดยไม่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดภาวะกระดูกพรุนในอนาคต
แต่หลังจากที่หยุดฉีดยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว มักจะใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะกลับมามีไข่ตกตามปกติ ดังนั้น จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดต่อในระยะเวลาสั้น ๆ หรือวางแผนจะมีบุตรภายใน ½ - 1 ปีข้างหน้า
ราคา
แผงละ 0 - 150 บาท
เข็มละ 0 - 300 บาท (รวมค่าฉีด)
ที่เห็นว่ามีราคาเริ่มต้นที่ 0 บาท เนื่องจากยาทั้งคู่ (แต่อาจใช้ยี่ห้ออื่นที่มีตัวยาเดียวกัน) จัดอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ดังนั้น หากไปรับบริการที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษาในหลักประกันสุขภาพ ก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายนั่นเองค่ะ
ในกรณีที่ไปซื้อเอ็กซ์ลูตอนมาใช้เอง จะมีราคาประมาณแผงละ 110 – 150 บาท และถ้าไปฉีดอีนาฟ-150 ที่คลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชน ก็จะมีค่าใช้จ่ายของค่ายาและค่าบริการฉีดรวมเป็น 100 – 300 บาทค่ะ
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจหมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
กดเมื่อเทียบการรับบริการตามสิทธิ์และการจ่ายเองของแต่ละวิธี จึงไม่แตกต่างกันมากค่ะ
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างยาฉีดคุมกำเนิดชนิด 3 เดือนอย่างอีนาฟ-150 และยาเม็ดคุมกำเนิดอย่างเอ็กซ์ลูตอน จะเห็นได้ว่าข้อเสียเด่น ๆ ของเอ็กซ์ลูตอนคือเรื่องความไม่สะดวกในการใช้ เนื่องจากต้องบริหารยาทุกวัน และต้องรับประทานให้ตรงเวลาอย่างเคร่งครัด
ส่วนข้อเสียเด่น ๆ ของอีนาฟ-150 ก็คือการที่มักจะใช้เวลานานหลายเดือนหลังจากหยุดฉีดยา กว่าที่จะมีไข่ตกตามปกติและพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์
ดังนั้น ผู้ใช้จึงควรพิจารณาจากความต้องการ เช่น หากมีปัญหาลืมรับประทานยาบ่อย ๆ การใช้ยาฉีดก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าเตรียมจะมีบุตรในอีก ½ - 1 ปีข้างหน้า การใช้ยาเม็ดรับประทานก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่านะคะ