การใช้ยากดประสาทในทางการแพทย์จะช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับสภาพทางจิตหรือลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยได้ แต่หากนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ของการเสพติด ยาเหล่านี้จะส่งผลเสียร้ายแรงต่อระบบการทำงานต่างๆ ภายในร่างกาย ลองดูข้อมูลเหล่านี้เพื่อที่คุณจะได้รู้จักยากดประสาทมากขึ้น
ยากดประสาทคืออะไร
ยากดประสาทเป็นยาที่ออกฤทธิ์เพื่อควบคุมการทำงานของระบบประสาทและช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แพทย์จะใช้ยากลุ่มนี้เพื่อควบคุมอารมณ์วิตกกังวลที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยระหว่างการรักษา แต่หากมีการใช้ยากดประสาทในทางที่ผิด เช่น ยากล่อมประสาท ยาคลายเครียด หรือยานอนหลับ ยาเหล่านี้จะทำให้ผู้ใช้เกิดภาวะเสพติดยา เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย และอาจทำให้ผู้เสพเสียชีวิตได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ยากดประสาทจะผลิตมาในรูปแบบของเม็ดยาหลากสีหรือแคปซูล ยาบางตัวเป็นยาที่ถูกกำหนดการใช้และสามารถใช้ได้หากมีใบสั่งจากแพทย์ เช่น ยาแวเลียมและยาซาแน็ก เป็นต้น นอกจากนี้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาเสพติดพวก GHB หรือ Rohypnol ที่ผลิตมาในรูปแบบของผงแป้งหรือของเหลวใช้สูดเข้าทางจมูกหรือกินได้ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของยากดประสาทเช่นกัน
ผลข้างเคียงระยะสั้น
หากทานยากดประสาทอย่างถูกต้องผ่านการรักษาโดยแพทย์ ยาเหล่านี้จะช่วยรักษาอาการหรือโรคที่เกิดกับผู้ป่วยได้ แต่การใช้ยาเกินขนาดโดยไม่มีใบสั่งแพทย์จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของระบบประสาท มีปัญหาเกี่ยวกับการเต้นของหัวใจ และระบบทางเดินหายใจ การใช้ยาปริมาณมากเกินไปภายในครั้งเดียวหรือการใช้ร่วมกับการดื่มแอลกอฮอล์หรือยาเสพติดอื่นๆ จะทำให้หัวใจเต้นช้าลงและระบบทางเดินหายใจทำงานผิดปกติจนอาจทำให้เสียชีวิตได้
ยากดประสาทจะส่งผลกระทบต่อกรดแกมมาอะมิโนบิวทีริก (GABA) ที่อยู่ภายในสมอง ทำให้ระบบการทำงานของสมองช้าลงและช่วยให้ผู้ใช้ยารู้สึกผ่อนคลาย สัญญาณที่บอกได้ว่าผู้นั้นกำลังได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยากดประสาท ดังนี้
- ง่วงซึม และมักง่วงหลับที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน
- มีอาการสับสน
- ปวดศีรษะ
- ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
- เวียนศีรษะ
- พูดไม่ชัด และมองภาพไม่ชัด ตาพร่ามัว
- ภาวะการตัดสินใจและระบบการทำงานของสมองบกพร่อง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ความจำเสื่อมชั่วขณะ (โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ยาออกฤทธิ์)
ผลข้างเคียงระยะยาว
การใช้ยากดประสาทอย่างต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานานจะทำให้ผู้เสพมีอาการติดยา ทำให้พวกเขาต้องใช้ยามากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้พวกเขาไม่สามารถหยุดการใช้ยาหรือเลิกยาได้ และเมื่อต้องการเลิกยาพวกเขาจะต้องพบกับอาการถอนยาที่แสนจะทรมาน
ผลข้างเคียงระยะยาวอื่นๆ ดังนี้
- สมรรถภาพทางเพศบกพร่อง
- นอนไม่หลับ
- มีปัญหาระบบทงเดินหายใจ
- เกิดอาการชักเกร็ง
- มีอาการซึมเศร้าและอาการทางจิตอื่นๆ
ปัญหาอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา
การใช้ยากประสาทในปริมาณที่มากเกินภายในครั้งเดียวเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะการใช้ยาเกินขนาด ทำให้หัวใจเต้นช้าลงและระบบทางเดินหายใจทำงานผิดปกติ หากมีอาการหนักมากอาจทำให้เสียชีวิตได้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
การใช้ยาร่วมกับยาเสพติดอื่นๆ อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต และการใช้ยาร่วมกับการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เกิดภาวะการใช้ยาเกินขนาด (overdose)
การใช้ยากดประสาทอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ระบบการทำงานของสมองจะทำงานช้าลงและหากพวกเขาลดปริมาณการใช้ยาหรือหยุดยา สมองจะตอบสนองให้กลับไปใช้ยาและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จนทำให้เกิดอาการชักอย่างรุนแรงซึ่งเป็นอันตรายมาก
ยากดประสาทเกือบทุกประเภทเป็นยาที่ต้องได้รับการควบคุมเมื่อใช้ นั่นหมายความว่าแพทย์ต้องออกใบสั่งยาให้ผู้ป่วยจึงจะสามารถใช้ได้ ยากดประสาทพวก Rohypnol และ GHB ถือเป็นยาที่ผิดกฎหมายในสหรัฐอเมริกา ดังนั้น การครอบครองหรือเสพยาเหล่านี้โดยไม่มีใบสั่งจากแพทย์จะได้รับโทษทางกฎหมาย
หากเสพติดแล้วจะเลิกอย่างไร
การเลิกหรือหยุดใช้ยาอาจทำได้ยาก ผู้ที่กำลังพยายามเลิกใช้ยาจะมีอาการใจสั่น มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ ชัก หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้ เนื่องจากระบบภายในร่างกายของผู้เสพได้คุ้นเคยกับการใช้ยาไปแล้ว ดังนั้น การหยุดยาจึงต้องได้รับการช่วยเหลือจากแพทย์ แม้การใช้ยากดประสาทจะเกิดจากการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ก็ตาม
หากคุณกำลังกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ยากดประสาทของคุณ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากการเลิกยาจะประสบผลสำเร็จได้ต้องได้รับการควบคุมดูแลและช่วยเหลือจากแพทย์หรือนักบำบัดอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะร้ายแรงจากอาการลงแดง
หลีกเลี่ยงการทดลองและการเสพ
การใช้ยาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์จะช่วยให้ผู้ป่วยผ่านพ้นช่วงเวลาอันเลวร้ายจากการรักษาไปได้ ทว่าการใช้ยาในทางที่ผิดหรือเพื่อเสพ โดยเฉพาะการใช้ร่วมกับการดื่มแอลกอฮอล์หรือยาเสพติดอื่นๆ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้น คุณต้องระมัดระวังอย่างมาก หากมีใครสักคนชักชวนให้คุณลองและบอกว่ายาดังกล่าวจะช่วยให้คุณผ่อนคลายได้ คุณควรปฏิเสธทันที และหากคุณตกอยู่ในภาวะของความเครียดและความวิตกกังวล คุณควรปรึกษาแพทย์หรือจิตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
ที่มาของข้อมูล http://kidshealth.org/en/teens/depressants.html