ผลไม้ยอดฮิตประจำหน้าร้อนนี้หนีไม่พ้นราชาผลไม้อย่างทุเรียน ที่คนต่อคิวยาวเหยียดทุกร้าน ไหนจะงานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนที่ยกขบวนกันมาไม่ขาดสาย ทำเอาสาวกคนรักทุเรียนน้ำลายสอพุ่งตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ควรเพลาๆ กันหน่อย เพราะกรมอนามัยชี้ การกินทุเรียนมากๆ กับอากาศที่ร้อนแบบนี้ไม่ดีต่อสุขภาพ
กลยุทธส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรโดยจัดบุฟเฟ่ต์ผลไม้และบุฟเฟ่ต์ทุเรียนกำลังมาแรงและได้รับความสนใจอย่างมาก สำนักโภชนาการ กรมอนามัยออกมาเตือนควรกินให้หลากหลาย อย่าเลือกกินแต่ทุเรียนเพลินจนลืมคำนึงถึงสุขภาพ โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนๆ แบบนี้ เพราะทุเรียนนั้นเป็นผลไม้ฤทธิ์ร้อน ให้พลังงานและน้ำตาลสูง กินมากๆ แล้วทำให้เกิดความร้อนในร่างกาย หรืออาการร้อนในนั่นเอง เมื่อมาเจอกับอากาศร้อนอีกจะยิ่งทำให้ไม่สบายได้ง่าย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
กินทุเรียนแบบคลายร้อน ป้องกันร้อนใน
อาการร้อนในจากการกินทุเรียนมากเกินไป มักทำให้เกิดแผลในปาก เจ็บคอ ไอ มีไข้ ปวดศีรษะ แน่นท้อง มีขี้ตามาก ครั่นเนื้อครั่นตัว รู้สึกไม่สบาย อึดอัด หน้าแดง และรู้สึกตัวร้อนผ่าวๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเหล่านี้จึงควรกินแต่พอดี และกินคู่กับผลไม้ฤทธิ์เย็น เช่น มังคุด แตงโม แก้วมังกร มะพร้าวอ่อน ส้มโอ ชมพู่ แตงไทย แคนตาลูป ซึ่งแพทย์แผนไทยและจีนต่างแนะนำว่าช่วยแก้ฤทธิ์ร้อนได้ หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือนำเกลือแกงครึ่งช้อนชามาผสมน้ำดื่ม 1 แก้ว และดื่มน้ำเปล่าตามมากๆ ซึ่งจะช่วยขับสารซัลเฟอร์และช่วยลดอาการร้อนใน
ทุเรียน มีคุณค่าทางสารอาหาร แต่กินมากไม่ดี
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ทุเรียน 4-6 เม็ด จะให้พลังงานสูงถึง 520 – 780 กิโลแคลอรี ซึ่งเทียบเท่ากับกินข้าวมันไก่ 2 จานหรือเท่ากับการกินอาหาร 2 มื้อ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งต้องควบคุมปริมาณน้ำตาลและไขมันในเลือดควรระมัดระวัง อาจกินได้แต่ต้องกินปริมาณน้อยกว่าคนปกติและไม่ควรกินทุกวันรวมถึงหากมื้อใดมีการกินทุเรียนจะต้องลดปริมาณน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตในอาหารมื้อนั้นด้วย
นางกุลพร สุขุมาลตระกูล นักวิชาการโภชนาการชำนาญการพิเศษ สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ส่วนผู้ป่วยโรคไตห้ามกินทุเรียนเด็ดขาด เพราะทุเรียนจะมีโพแทสเซียมสูง ส่งผลให้ทวีความรุนแรงของไตได้ ส่วนคนที่สุขภาพแข็งแรงดีก็ใช่ว่าจะกินได้ตามใจชอบ แนะนำให้กินไม่เกิน 2 เม็ดกลางเท่านั้นและไม่ควรกินทุกวันรวมถึงควรลดอาหารกลุ่มข้าว แป้ง และของหวาน ในมื้ออาหารนั้นด้วย ไม่อย่างนั้นจะเสี่ยงทำให้เกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน และภาวะไขมันในเลือดสูงได้
นอกจากนี้เมื่อเทียบกับผลไม้ทั่วไป ทุเรียนมีแคลอรี่เป็นเกือบ 2 เท่าเลยทีเดียว ดังนั้นงานบุฟเฟ่ต์ทุเรียนครั้งหน้าก็ลองเลือกผลไม้อื่นๆ โดยเฉพาะผลไม้ฤทธิ์เย็นมาช่วยแก้ร้อนใน และถือเป็นการลดปริมาณแคลอรี่ไปในตัว รวมทั้งอย่าลืมควบคุมปริมาณแคลอรี่โดยรวมต่อวันด้วย รับรองว่าฟินแบบน้ำหนักไม่เพิ่ม และดีต่อสุขภาพมากกว่าเดิมแน่นอน