หากคุณเพิ่งได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่ง (Borderline personality disorder: BPD) คุณอาจรู้สึกตกตะลึง หวาดกลัว และโดดเดี่ยว
แต่โรคนี้พบได้บ่อยกว่าที่คุณคิด การเรียนรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรค รวมถึงความชุกทางสถิติอาจทำให้คุณรู้สึกมีความกล้าที่จะมองหาความช่วยเหลือจากการรักษาและกลุ่มที่ให้การสนับสนุน และต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงและข้อมูลทางตัวเลขเกี่ยวกับโรคนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ความชุกของโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่ง
การศึกษาเร็ว ๆ นี้ในสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่า 1.6% ของประชากรเป็นโรคนี้
ตัวเลขอาจจะดูน้อย แต่หากคุณพิจารณาว่า สหรัฐอเมริกากว้างใหญ่แค่ไหน คุณอาจระลึกได้ว่า 1.6% ก็หมายถึง คนจำนวนมากทีเดียว กล่าวคือมีคนที่เป็นโรคนี้มากกว่าสี่ล้านคนในอเมริกาเท่านั้น
จำนวนผู้เป็นโรคนี้ทั้งหมดยังไม่รู้แน่ชัดเหมือนในโรคอื่นๆ แต่ที่จริงแล้วโรคนี้สามารถพบได้บ่อยกว่าความเจ็บป่วยเช่นโรคจิตเภท (Schizophrenia) เสียอีก
ความแตกต่างระหว่างเพศในโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่ง
ผู้หญิงมีแนวโน้มจะถูกวินิจฉัยเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชาย ที่จริงแล้ว ประมาณ 75% ของผู้ที่ถูกวินิจฉัยเป็นโรคนี้เป็นผู้หญิง นั่นคืออัตราส่วนระหว่างหญิงต่อชายที่ถูกวินิจฉัยด้วยโรคนี้จะเป็น 3:1
ผู้ศึกษาวิจัยยังไม่ทราบว่าทำไมจึงมีความแตกต่างนี้ อาจเป็นได้ว่าผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่งได้มากกว่า ผู้หญิงอาจมีแนวโน้มจะติดตามรักษามากกว่า หรืออาจมีอคติทางเพศในการวินิจฉัย
เช่น ผู้ชายที่มาด้วยอาการของโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่งอาจมีแนวโน้มจะถูกวินิจฉัยผิดพลาดเป็นภาวะอื่น เช่นโรคเครียดจากเหตุการณ์ร้ายแรง (post-traumatic stress disorder) หรือโรคซึมเศร้า (major depressive disorder)
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่งกับสถิติของการฆ่าตัวตาย
ข้อมูลบางอย่างทางสถิติที่น่าเชื่อถือได้มากที่สุดของโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่ง มาจากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่งและการฆ่าตัวตาย ประมาณ 70% ของผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีความพยายามฆ่าตัวตายอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต
ยิ่งไปกว่านั้น 8-10% ของผู้ป่วยจะฆ่าตัวตายได้สำเร็จ ซึ่งมากกว่า 50 เท่าของอัตราการฆ่าตัวตายในประชากรปกติ
สาเหตุที่อัตราการฆ่าตัวตายสูงนั้น ยังไม่เป็นที่ทราบในปัจจุบัน ซึ่งอาจเป็นเพราะผู้ป่วยโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่งไม่ทราบว่าจะไปรับการรักษาได้ที่ใด หรืออาจถูกวินิจฉัยผิดพลาดและไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม
โรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่งและการวินิจฉัยผิดพลาด
แม้ว่า 1.6% จะเป็นตัวเลขของผู้เป็นโรคนี้ที่ถูกบันทึกไว้ แต่ความชุกที่แท้จริงอาจจะมากกว่านั้น ในการศึกษาเร็ว ๆ นี้ กว่า 40% ของผู้ที่เป็นโรคนี้เคยถูกวินิจฉัยผิดพลาดเป็นโรคอื่น เช่น โรคไบโพล่าร์ หรือโรคซึมเศร้า ความเจ็บป่วยเหล่านี้มักถูกอ้างถึงบ่อยกว่า เนื่องจากเป็นที่รู้จักกันมากกว่าและรักษาทางยาได้ง่ายกว่า
โดยถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้ที่เป็นโรคโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่งจะมีโรค หรือภาวะอื่นร่วมด้วย ในความเป็นจริงแล้วผู้เป็นโรคนี้มากถึง 20% ถูกพบว่ามีโรคไบโพล่าร์ร่วมด้วย ซึ่งทำให้การวินิจฉัยและการรักษายากกว่าการรักษาโรคเพียงโรคเดียว
สถิติทางการพยากรณ์โรค
ข่าวดีคือ แม้ว่าโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่งจะเป็นความผิดปกติทางจิตที่รุนแรง แต่ไม่ได้เลวร้ายขนาดการต้องโทษตลอดชีวิต การศึกษาแสดงให้เห็นว่า การพยากรณ์โรคสำหรับโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่งไม่ได้แย่เท่าที่คิด
กว่าครึ่งของผู้ที่ถูกวินิจฉัยเป็นโรคบุคลิกภาพแปรปรวนแบบก้ำกึ่งจะมีอาการไม่ถึงเกณฑ์การวินิจฉัยในอีกสองปีต่อมา และในอีกสิบปีต่อมา 88% ของผู้ป่วยที่เคยถูกวินิจฉัยจะไม่มีอาการที่เข้าได้กับเกณฑ์การวินิจฉัยอีก