ผลไม้ 5 ชนิดที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

แนะนำผลไม้ 5 ชนิดที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถรับประทานปริมาณมาก นำไปประยุกต์ทำอาหารได้หลากหลาย
เผยแพร่ครั้งแรก 29 ธ.ค. 2016 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 16 ส.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที
ผลไม้ 5 ชนิดที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

คุณไม่จำเป็นต้องเลิกรับประทานผลไม้หากเป็นโรคเบาหวาน เพราะผลไม้เป็นแหล่งที่มีสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แต่จะต้องระมัดระวังปริมาณผลไม้ที่รับประทานต่อวัน และเลือกชนิดของผลไม้ให้เหมาะสม เนื่องจากผลไม้เหล่านั้น อาจมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป ซึ่งส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้

ผลไม้ชนิดไหนเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะต้องระวังระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้มากหรือน้อยจนเกินไป การรับประทานผลไม้จึงต้องสังเกตน้ำตาลในผลไม้แต่ละชนิด ซึ่งสามารถสังเกตง่ายๆ ได้จากรสชาติของผลไม้ ถ้าผลไม้ชนิดนั้นมีรสชาติหวานก็ไม่ควรรับประทานมากจนเกินไป ควรเลือกผลไม้ที่มีจำนวนกากใยสูง เพราะนอกจากจะช่วยให้อิ่มท้องแล้ว ยังช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นระยะๆ เพื่อความปลอดภัยของร่างกาย 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจเบาหวานวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 78 บาท ลดสูงสุด 83%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ผลไม้ชนิดใดที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ปัจจุบันยังไม่มีมีคำตอบที่แน่ชัด เพราะแต่ละคนมีความชอบ และอาหารที่รับประทานแตกต่างกัน แต่ผลไม้ที่จะแนะนำในวันนี้ เป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ สามารถรับประทานปริมาณมากได้ และนำไปประยุกต์ทำเป็นขนมหวานได้หลากหลายชนิด มีประโยชน์ต่อร่างกาย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย ก็คือ "ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่" นั่นเอง

ทำไมผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ถึงเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานมาก เพราะมีปริมาณน้ำตาลต่ำ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินหลากหลายชนิด และเส้นใยอาหาร  สารต้านอนุมูลอิสระในเบอร์รี่จะช่วยป้องกันการทำลายอนุมูลอิสระที่เกิดในร่างกาย จากการสัมผัสมลภาวะทางอากาศ ฝุ่น ควัน แสงแดด เป็นต้น ซึ่งสารอนุมูลอิสระชนิดนี้จะสร้างความเสื่อมให้กับร่างกาย ทำให้ดูมีอายุมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง และการเสื่อมของจุดรับแสงภายในตา

ผลไม้ 5 ชนิดที่ดีที่สุดสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน

  • ราสเบอร์รี่  มีปริมาณคาร์โบไฮเดรต 15 กรัมต่อ 1 ถ้วย และยังให้เส้นใยอาหารมากที่สุดในผลไม้ 5 ชนิด ข้อมูลจาก Obesity and Annals of Nutrition and Metabolism พบว่าการรับประทานราสเบอร์รี่ซึ่งมีเส้นใยอาหารสูงจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่และช่วยลดโรคแทรกซ้อนต่างๆที่เกิดจากโรคเบาหวานได้ นอกจากนี้ราสเบอร์รี่ยังอุดมไปด้วยกรดเอลลาจิก (Ellagic acid) ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
  • แบล็คเบอร์รี่  ปริมาณ 3 ส่วน 4 ถ้วย มีคาร์โบไฮเดรตเพียง 15 กรัม อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีการศึกษาพบว่า สามารถช่วยลดความดันโลหิต ช่วยลด Cholesterol นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจและโรคมะเร็งได้อีกด้วย นอกจากนี้แบล็คเบอร์รี่มีเส้นใยอาหารทั้ง 2 ประเภทคือละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ซึ่งแบบละลายน้ำจะทำให้อิ่มได้นานและช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีจึง เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานเป็นอย่างมากส่วนส้นใยอาหารแบบที่ไม่ละลายน้ำจะลดอาการท้องผูกช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
  • แครนเบอร์รี่  ผลไม้ชนิดนี้มีปริมาณคาร์โบไฮเดรต 15 กรัมต่อ 1 ถ้วย มีสรรพคุณช่วย ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ เส้นเลือดในสมองตีบ และโรคมะเร็ง 

    โดยมีการศึกษาเกี่ยวกับแครนเบอร์รี่พบว่า สามารถช่วยลดระดับไขมัน LDL  (Low Density Lipoprotein) ไขมันที่ความหนาแน่นต่ำ ซึ่งเป็นไขมันที่ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง และช่วยเพิ่ม HDL (High Density Lipoprotein ) ซึ่งเป็นไขมันที่ดีต่อร่างกาย ช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันที่ไม่ดี คือ โคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ และ LDL ไปสะสมในหลอดเลือดแดงได้ และใน Journal Nutrition พบว่าการดื่มน้ำแครนเบอร์รี่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังเช่นโรคหัวใจโรคเบาหวานและโรคหลอดเลือดสมองได้
    นอกจากนี้ ดร. Simran Saini จากโรงพยาบาล Fortis Shalimar Bagh ประเทศอินเดียได้กล่าวว่าน้ำแครนเบอร์รี่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสูงจึงช่วยป้องกันการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้อีกด้วย
  • สตรอเบอร์รี่  สตรอเบอร์รี่ปริมาณ 1.25 ถ้วย มีคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม เป็นผลไม้ที่ให้พลังงาน และมีวิตามินซีสูงกว่าเบอร์รี่ชนิดอื่นถึง 3 เท่า โดยในสตรอเบอร์รี่ 1 ถ้วยสามารถให้วิตามินซีเท่ากับวิตามินซีในน้ำส้ม 1 ถ้วย จากงานวิจัยพบว่าการรับประทานสตรอเบอร์รี่ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดไขมันไม่ดี (LDL) และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจในสตรีได้ถึง 32% นอกจากนี้สตรอเบอร์รี่ยังมีกรดโฟลิค ที่ช่วยป้องกันความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด โรคหัวใจ และโรคมะเร็งอีกด้วย
  • บลูเบอร์รี่  ปริมาณ 3 ส่วน 4 ถ้วย มีคาร์โบไฮเดรต 15 กรัม เป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุดใน 5 ชนิด ถูกเรียกว่าเป็น อาหารสมอง เพราะช่วยในเรื่องการป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ และยังมีสาร Phytonutrients จำนวนมาก เช่น Flavonoids, Anthocyanins ที่มีประโยชน์ต่อระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยลดอาการอักเสบ  
    นอกจากนี้บลูเบอร์รี่ยังเป็นผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำและมีไฟเบอร์สูงดังนั้นเมื่อรับประทานบลูเบอร์รี่แล้วโอกาสที่จะทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นจึงมีน้อยมาก และการรับประทานบลูเบอร์รี่ 1-2 ถ้วยต่อวันสามารถลดระดับไขมัน LDL และช่วยเพิ่มระดับไขมัน HDL ได้ จากการศึกษายังพบว่าผู้ที่มีความดันโลหิตสูงเมื่อรับประทานบลูเบอร์รี่เป็นประจำจะช่วยให้ความดันลดลง แต่สำหรับผู้ที่มีความดันปกติจะช่วยให้ความดันอยู่ในภาวะคงที่ ทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น 

ลดค่าใช้จ่ายจากการรับประทานเบอร์รี่สด

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่มีราคาสูงในประเทศไทย แต่เมื่อถึงฤดูกาลของเบอร์รี่ แล้วจะมีราคาค่อนข้างถูก คุณสามารถซื้อกักตุนไว้ โดยการแช่แข็ง หรือซื้อเบอร์รี่ตากแห้งมารับประทานได้ แต่ต้องระวังจำนวนที่รับประทาน เพราะเบอร์รี่แห้งจะมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตมากกว่าเบอร์รี่สด เนื่องจากเบอร์รี่แห้งจะสูญเสียน้ำทำให้มีขนาดเล็กลง แต่ปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่อลูกเท่าเดิม การรับประทานปริมาณเบอร์รี่แห้ง 1 ถ้วยจึงมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตมากกว่าเดิม เพราะจำนวนของเบอร์รี่ที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง

ทั้งนี้สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานการรับประทานผลไม้ทุกอย่างจะต้องอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมจึงจะดีที่สุด


6 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Murphy MM, et al. (2017). 100 % Fruit juice and measures of glucose control and insulin sensitivity: A systematic review and meta-analysis of randomised controlled trials. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5736636/)
Salome Phelamei, Can raspberries help lower blood sugar levels and maintain weight in people with type 2 diabetes?, (https://www.timesnownews.com/health/article/raspberries-for-type-2-diabetes-eating-this-high-fibre-fruit-can-help-manage-blood-sugar-and-body-weight/404684), 22 April 2019
Natalie Olsen, RD, LD, ACSM EP-C, What are the benefits of blackberries?, (https://www.medicalnewstoday.com/articles/322052.php), 6 June 2018

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
โยเกิร์ตชนิดไหนดีที่สุดสำหรับโรคเบาหวาน
โยเกิร์ตชนิดไหนดีที่สุดสำหรับโรคเบาหวาน

โยเกิร์ตแบบกรีก : โภชนาการและประโยชน์ในโรคเบาหวาน

อ่านเพิ่ม